ประวัติศาสตร์การควบรวมกิจการระหว่าง Square และ Enix

 ไตรมาสที่ 1 ค.ศ. 1997 - Square ก่อตั้ง Square Pictures

ช่วงต้นของปี 1997 ทาง Square USA ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Square ได้ก่อตั้งสตูดิโอที่มีชื่อว่า Square Pictures ขึ้นมาที่เมืองฮอนโนลูลูในหมู่เกาะฮาวาย  ในเวลานั้นทางบริษัท Square ก็หวังว่าสตูดิโอนี้จะกลายมาเป็นกองบัญชาการนอกญี่ปุ่นลำดับที่ 3 ที่จะช่วยบริษัทผลิตสื่อบันเทิงออกไปทั่วโลกได้ โดยก่อนหน้านี้ Square ก็เคยตั้ง SquareSoft ขึ้นในปี 1989 และตามมาด้วย Square USA ในปี 1996 ซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ลอสแอนเจลิส และสาเหตุที่ Square Pictures ถูกตั้งขึ้นที่ฮาวายนั้นก็เพราะมันอยู่ระหว่างญี่ปุ่นและลอสแอนเจลิสนั่นเอง


ในเวลานั้นคุณฮิโรโนบุ ซากากุจิ บิดาของซีรีส์ Final Fantasy ก็ได้บินไปอยู่ที่ฮาวายเพื่อกำกับการทำงานที่สตูดิโอใหม่ ซึ่งรวมถึงการพัฒนาภาพยนตร์ CGI ในนาม Final Fantasy: The Spirits Within ที่เขาเขียนบทและกำกับเองกับมือ

การจัดตั้ง Square USA และ Square Pictures ขึ้นมาทำให้บริษัท Square ในเวลานั้นประสบภาวะขาดทุนเป็นครั้งแรกนับแต่ปี 1986 เป็นต้นมา โดยการขาดทุนเมื่อปี 1986 นั้นทางค่ายได้รับการช่วยเหลือจากการกำเนิดของ Final Fantasy แต่สำหรับการขาดทุนในปี 1997 ซึ่งขาดทุนถึง 27 ล้านดอลลาร์ในเวลานั้น เป็นการขาดทุนที่ทางค่ายตั้งใจให้เกิดขึ้นในฐานะการลงทุนเพื่ออนาคต

และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นอันสำคัญ เพราะการตัดสินใจก่อตั้ง Square Pictures ขึ้นเพื่อผลิตภาพยนตร์ CGI ต้นทุนสูง เป็นก้าวแรกของการเดินไปสู่ภาวะขาดทุนครั้งยิ่งใหญ่ขอบริษัท เหตุที่ Square ในเวลานั้นตัดสินใจคลอด Square Pictures ขึ้นมาก็เป็นเพราะความสำเร็จของภาพยนตร์ Toy Story ในเวลานั้น ซึ่งหากโลกนี้ไม่เคยมี Toy Story เกิดขึ้นมาก่อน บางทีสตูดิโอที่ฮาวายอาจจะกลายเป็นสตูดิโอผลิตเกมตั้งแต่แรกก็เป็นได้

อ้างอิง

http://shell.lava.net/~shiro/Private/essay/gdc2002.html

ค.ศ. 2000 - จุดเริ่มต้นของการการควบรวมกิจการกับ Enix

จากหลักฐานที่ปรากฏ พบว่าแนวคิดในการควบรวมกิจการระหว่าง Square และ Enix นั้นเกิดขึ้นก่อนที่การควบรวมจะเกิดขึ้นจริงอย่างน้อยก็เป็นเวลา 3 ปี

โดยหลังจาก Square พึ่งอ่วมจากการขาดทุนมา ทาง Enix เองก็กำลังลำบากหลังจากพึ่งใช้เงินเป็นจำนวน 99.2 ล้านเยน (ประมาณ 840,693 ดอลลาร์) ในการซื้อหุ้นจากค่าย Game Arts ที่เป็นผู้พัฒนาซีรีส์ Grandia ทำให้ Enix ได้สิทธิในการจัดจำหน่ายเกมดังกล่าวมา ทว่าการลงทุนดังกล่าวก็ทำให้ Dragon Quest VII ที่ทางค่ายพยามโปรโมตและตั้งใจจะวางจำหน่ายภายในปีงบประมาณ 1999 ต้องเลื่อนการวางจำหน่ายออกไปจนถึงวันที่ 26 สิงหาคม ปี 2000 ทำให้ผลประกอบการในปี 1999 มีกำไรสุทธิลดลงจากปีก่อนหน้านั้นถึงครึ่งต่อครึ่ง และยังทำให้หุ้นของ Enix มีมูลค่าลดลงถึง 40%


ด้วยเหตุนี้ ทั้ง Square และ Enix จึงต่างพากันมองหาพันธมิตรที่จะมาช่วยเกื้อหนุนพวกเขา ปีนั้นเองทั้ง Square, Enix และ Namco จึงได้เจรจาเพื่อทำข้อตกลงร่วมกันในการช่วยกันผลักดันระบบ PlayOnline ซึ่งเป็นการให้บริการเกมผ่านระบบ Network โดย Square ก็เปิดเผยแผนที่จะสร้าง Final Fantasy XI ให้เล่นบนระบบดังกล่าว ส่วน Enix ในเวลานั้น ประธานเคย์จิ ฮอนดะก็ได้เปิดเผยแผนที่จะเปิดให้บริการเกมออนไลน์บนระบบดังกล่าวให้ได้ 1-2 เกมภายในปี 2003 พร้อมเผยว่ากำลังพิจารณาสร้าง Dragon Quest Online ขณะที่ทาง Namco โดยรองประธานคิวชิโระ ทาคางิ ก็ได้กล่าวว่าเริ่มมีการพัฒนาเกมออนไลน์ขึ้นในบริษัทแล้ว

จุดนี้เองเป็นการเริ่มต้นของแนวคิดในการควบรวมกิจการกันระหว่าง Square กับ Enix และได้เริ่มต้นการเจรจากันนับจากช่วงนี้ไป

อ้างอิง

http://www.rpgamer.com/news/Q2-2003/042503e.html

http://www.rpgfan.com/news/2003/1648.html

http://uk.ps2.ign.com/articles/095/095904p1.html

Okayama

กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2001 - โทโมยูกิ ทาเคจิ ประธานบริษัท Square ลาออก

หลังจากเข้าร่วมบริษัท Square และได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นประธานบริษัทมาตั้งแต่ปี 1996 โทโมยูกิ ทาเคจิก็ได้กลายมาเป็นประธานผู้ถือหุ้นของบริษัทในปี 2000 เขาได้รับความคาดหวังว่าจะต้องพลิกสภาวะทางการเงินของบริษัทที่กำลังถดถอยอยู่ให้จงได้ ทว่าในเดือนกุมภาพันธ์ของปี 2001 เขาก็ได้ลาออกไป โดยภายใต้การบริหารของเขา บริษัท Square ก็ได้ประสบภาวะขาดทุนในปี 1997 และหลังจากนั้นเพียง 4 ปีบริษัทก็ประสบภาวะขาดทุนอีกครั้ง

*ภาพซ้าย คุณโทโมยูกิ ทาเคจิ, ภาพขวา คุณฮิซาชิ ซูซึกิ

หลังจากคุณทาเคจิลาออกแล้ว คุณฮิซาชิ ซูซึกิก็ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานบริษัทแทน

อ้างอิง

http://videogam.in/people/Hisashi_Suzuki

http://squarehaven.com/people/Tomoyuki-Takechi

http://www.nationmaster.com/encyclopedia/Tomoyuki-Takechi

25 พฤษภาคม ค.ศ. 2001 - ซากากุจิวางแผนออกจาก Square, จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า Mistwalker

แม้ฮิโรโนบุ ซากากุจิจะเคยช่วยบริษัท Square ไว้ด้วยการให้กำเนิด Final Fantasy ซึ่งกลายมาเป็นหนึ่งในซีรีส์เกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกนี้ขึ้นมา แต่ดูเหมือนกระทั่งตัวเขาเองก็ยังหวั่นเกรงกับความล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้นได้กับ Final Fantasy: The Spirits Within โดยขณะที่ตัวภาพยนตร์ที่เสร็จสมบูรณ์นั้นมีซีนอยู่ด้วยกัน 1,336 ซีน แต่กลับมีถึง 1,427 ซีนที่ถูกตัดออกไป โดยทีมงานทางหนึ่งที่ชื่อชิโระ คาวาอิ ได้เปิดเผยว่าในการทำงานนั้นมันเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง


(คุณซากากุจิเป็นคนกำกับ The Spirits Within ด้วยตัวของเขาเอง ดังนั้นเมื่อภาพยนตร์ดังกล่าวล้มเหลว คุณซากากุจิจึงขอลงจากตำแหน่งรองประธานบริหารบริษัท Square ในเวลานั้นมาเป็นเพียงผู้อำนวยการบริหารเท่านั้น แล้วก็ไม่ได้รับอนุญาตให้รับบทบาทครีเอทีฟอีก)

ในวันนั้นซึ่ง The Spirits Within ยังไม่ได้ออกฉายเลยด้วยซ้ำ  คุณซากากุจิ ก็ได้ไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า Mistwalker เอาไว้ก่อน ในตอนนั้นไม่มีใครเข้าใจเหตุผลที่เขาไปจดทะเบียนชื่อดังกล่าว

อ้างอิง

http://shell.lava.net/~shiro/Private/essay/gdc2002.html

http://www.trademarkia.com/mistwalker-78065908.html

http://www.rpgfan.com/news/2003/1648.html

2 กรกฎาคม ค.ศ. 2001 - Final Fantasy: The Spirits Within ออกฉายครั้งแรก

Final Fantasy: The Spirits Within ออกฉายเป็นครั้งแรกในรอบพรีเมียร์ โดย Square ได้ลงทุนกับภาพยนตร์เรื่องนี้ไปทั้งสิ้นเป็นเงินจำนวน 167 ล้านดอลลาร์ โดยแยกเป็นต้นทุนการผลิต 137 ล้านดอลลาร์ และต้นทุนด้านการตลาดอีก 30 ล้านดอลลาร์ ซึ่งภาพยนตร์แนว Sci-fi ดังกล่าวก็แทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ Final Fantasy ที่แฟน ๆ รู้จัก และท้ายที่สุด ผลลัพธ์ของมันก็คือการทำให้ Square ต้องขาดทุนวอดวายถึง 82 ล้านดอลลาร์ (ทำรายได้ทั่วโลกได้ 85 ล้านดอลลาร์)


คุณยาสึฮิโระ ฟุคุชิมะ ประธานผู้ถือหุ้นของบริษัท Enix ในเวลานั้นได้เคยให้สัมภาษณ์กับทางหนังสือพิมพ์ไมนิจิว่าแผนการควบรวมกิจการกับ Square นั้นมีการคุยกันอยู่นานหลายปี โดยช่วงที่ติดขัดที่สุดก็คือตอนที่ Square ขาดทุนวอดวายไปกับภาพยนต์ The Spirits Within ทำให้ทาง Enix ต้องกลับมาคิดทบทวนแผนดังกล่าวใหม่ เรื่องราวถึงได้ยืดยื้อออกไปนานหลายปี

อ้างอิง

http://www.rpgamer.com/news/Q2-2003/042503e.html

http://www.filmsite.org/greatestflops21.html

4 ตุลาคม ค.ศ. 2001 - Square Pictures เลิกทำภาพยนตร์

ภายหลังความย่อยยับครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นโดย Square Picture ทางบริษัท Square จึงประกาศถอนตัวออกจากวงการภาพยนตร์ โดยหนังสือพิมพ์นิคเคอิเปิดเผยว่าการถอนตัวดังกล่าวเกิดเพราะทางค่ายขาดทุนถึง 3.16 ล้านเยน หรือคิดเป็น 115 ล้านดอลลาร์


หลังจาก Square Pictures ได้ผลิตหนังสั้น Final Flight of the Osiris ซึ่งเป็นเนื้อหาส่วนหนึ่งของ Animatrix เสร็จสิ้นแล้ว สตูดิโอดังกล่าวก็เปลี่ยนมาเป็นสตูดิโอสำหรับวิจัยและพัฒนาเกมแทน

อ้างอิง

http://www.square-enix.com/jp/ir/e/data/ar/download/20070831en.pdf

http://uk.movies.ign.com/articles/306/306720p1.html

1 ธันวาคม ค.ศ. 2001 - โยอิจิ วาดะ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานและ CEO ของ Square

ฮิซาชิ ซูซึกิ ที่ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท Square อยู่ในเวลานั้นได้ลงจากตำแหน่งดังกล่าวเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อความล้มเหลวที่เกิดขึ้นกับ Final Fantasy: The Spirits Within โดยเขาลงไปเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารแทน ก่อนจะลาออกจากบริษัทไปในปี 2003


โยอิจิ วาดะ เกิดที่เมืองนาโงย่าเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ปี 1959 เขาเข้าร่วมบริษัท Square เมื่อเดือนเมษายน ปี 2000 ในเดือนมิถุนายนปีเดียวกันเขาก็ขึ้นมาดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารและประธานฝ่ายการเงิน (CFO) ต่อมาเดือนกันยายน ปี 2001 เขาก็ได้รับแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นประธานฝ่ายปฏิบัติการ (COO) และในเดือนธันวาคมก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานฝ่ายบริหาร (CEO) และกลายเป็นประธานของบริษัทอย่างเต็มตัว เขาได้รับมอบหมายให้ฟื้นฟูและจัดโครงสร้างการบริหารของ Square ขึ้นใหม่ แต่นั้นมาเขาก็ทำให้ผลกำไรของบริษัทดีขึ้นอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ และทำให้ผลประกอบการของบริษัทพุ่งขึ้นสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ในปีงบประมาณ 2002

อ้างอิง

http://www.square-enix.com/eng/company/officer.html#officer01

Square Enix Explanatory 2004

28 มีนาคม ค.ศ. 2002 - ซีรีส์ยักษ์สุดท้ายของ Square ; Kingdom Hearts

การพัฒนา Kingdom Hearts เรื่มต้นขึ้นช่วงต้นปี 2000 โดยเรื่องมันเริ่มมาจากการที่ผู้อำนวยการของ Square ท่านหนึ่งผู้มีนามว่าชินจิ ฮาชิโมโตะ ได้บังเอิญไปเจอกับผู้บริหารท่านหนึ่งของทาง Disney เข้าในลิฟต์ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เพราะในเวลานั้น ออฟฟิซของ Square และ Disney ต่างก็อยู่ในอาคารเดียวกัน ความคิดในการพัฒนา Kingdom Hearts จึงได้เกิดขึ้น พร้อมกับการมอบหมายให้ผู้ออกแบบตัวละคร เท็ตสึยะ โนมุระ รับหน้าที่เป็นผู้กำกับเกมดังกล่าว


นี่เป็นครั้งแรกที่โนมุระได้รับหน้าที่ของผู้กำกับ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยรับบทบาทคนตรวจบั๊ค ผู้ออกแบบมอนสเตอร์ และผู้ออกแบบตัวละครหลักใน FFVII ขณะที่คุณคาสึชิเงะ โนจิมะ ที่โด่งดังจากการเขียนบทให้ FFVII ก็มารับตำแหน่งผู้เขียนบทให้กับ KH ด้วยเช่นกัน

ก่อนที่การควบรวมกิจการกับ Enix จะเกิดขึ้น Kingdom Hearts ได้กลายมาเป็นซีรีส์ใหม่ซีรีส์ที่ Square พัฒนาขึ้นมาแล้วประสบความสำเร็จ จนได้สร้างภาคต่อและภาคแยกย่อยตามมามากมาย ตามหลังรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จไปแล้วอย่างซีรีส์ FF, Mana, SaGa, Chrono, Front Mission และ Parasite Eve

อ้างอิง

http://ps2.ign.com/articles/550/550462p1.html

1 มกราคม ค.ศ. 2003 - ผู้ก่อตั้ง Square ปฏิเสธที่จะควบรวมกิจการกับ Enix

ผู้ก่อตั้งและผู้ที่ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของบริษัท Square คุณมาซาชิ มิยาโมโตะได้แสดงความเห็นต่อหนังสือพิมพ์ไมนิจิว่าตัวเขาคัดค้านการควบรวมกิจการระหว่างสองบริษัท ด้วยเหตุผลว่าการควบรวมกิจการจะทำให้มูลค่าหุ้นของ Square ตกลง เนื่องจากในตอนนั้น Square ได้ตกลงกันว่าจะแลกเปลี่ยนหุ้นกับ Enix ในอัตรา 1 หุ้นของ Square ต่อ 0.81 หุ้นของ Enix ซึ่งจะทำให้คุณมิยาโมโตะซึ่งถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุดของของ Square อยู่ถึง 30% เมื่อควบรวมกิจการแล้วจะได้ถือหุ้น 18% ของบริษัทใหม่ กลายเป็นผู้ถือหุ้นมากอันดับที่สองรองจากคุณยาสึฮิโระ ฟุคุชิมะ ประธานผู้ถือหุ้นของทาง Enix

ซึ่งหากคุณมิยาโมโตะยังคงปฏิเสธการควบรวมกิจการ เมื่อถึงงานประชุมผู้ถือหุ้นระหว่างสองบริษัทที่จัดขึ้นในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ปี 2003 ที่เหล่าผู้ถือหุ้นจะโหวตลงมติกันว่าจะดำเนินการควบรวมกิจการในวันที่ 1 เมษายน ปี 2003 ตามแผนที่วางกันไว้หรือไม่ โดยคุณมิยาโมโตะซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของ Square ก็จะมีสิทธิมีเสียงในที่ประชุมมาก ก็อาจขัดขวางการควบรวมกิจการไม่ให้เกิดขึ้นได้

ถัดมาไม่กี่วันทาง Square และ Enix ก็ได้รีบทำความตกลงเรื่องสัดส่วนการแลกเปลี่ยนหุ้นกันใหม่ โดยเปลี่ยนเป็น 1 หุ้นของ Square ต่อ 0.85 หุ้นของ Enix ซึ่งเป็นสัดส่วนที่คุณมิยาโมโตะยอมรับได้ แต่เขาก็ยังต้องยอมรับการกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับที่สองรองจากคุณฟุกุชิมะของทาง Enix ทำให้คุณฟุกุชิมะได้ดำรงตำแหน่งประธานผู้ถือหุ้นของ Square Enix ในเวลาต่อมา

*แม้คุณมิยาโมโตะ จะถือหุ้นใหญ่ที่สุดของบริษัท Square แต่ในเวลานั้นเขาไม่ได้เป็นประธานผู้ถือหุ้นของบริษัท

อ้างอิง

http://www.rpgfan.com/news/2003/1023.html

http://www.ign.com/articles/2002/07/08/square-sells-stock-abroad

http://www.square-enix.com/eng/pdf/ar_20040806_01.pdf#page=14

13 มีนาคม ค.ศ. 2003 - Final Fantasy ภาคสุดท้ายในชื่อของ Square

ที่ผ่านมา Final Fantasy แต่ละภาคนั้นมีเรื่องราวที่จบในตัวเอง ไม่มีการเชื่อมต่อกันระหว่างภาคต่าง ๆ ทว่า Final Fantasy X-2 ก็ได้วางจำหน่ายในฐานะเรื่องราวต่อเนื่องโดยตรงจาก Final Fantasy X ซึ่งว่ากันว่านี่คือสัญญาณของทิศทางใหม่ที่โยอิจิ วาดะ ต้องการให้บริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมกิจการก้าวเดินไป นั่นคือทิศทางของเกมที่มีภาคต่อ ภาคสมบูรณ์ และภาคยิบย่อยตามมามากมาย (หลังจากที่ปีก่อนก็พึ่งวางจำหน่าย Final Fantasy X -International- และ Kingdom Hearts -Final Mix-)และที่โด่งดังที่สุดก็คือโครงการ Compilation of Final Fantasy VII นั่นเอง

*ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ปี 2003 Enix ได้วางจำหน่าย Star Ocean : Till th End of Time เป็นเกมสุดท้ายภายใต้ชื่อ Enix

อ้างอิง

http://www.gamingunion.net/news/the-history-of-square-enix-the-formation--5250.html

1 เมษายน ค.ศ. 2003 - การเริ่มต้นใหม่ในนามของ Square Enix

Square และ Enix เข้าควบรวมกิจการกันอย่างเป็นทางการ และเริ่มดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2003 โดยมีโยอิจิ วาดะ อดีตประธาน Square เป็นประธานบริษัท, เคย์จิ ฮอนดะ อดีตประธาน Enix เป็นรองประธานบริษัท, ยาสึฮิโระ ฟุคุชิมะ อดีตประธานผู้ถือหุ้นของ Enix เป็นประธานผู้ถือหุ้น และมาซาชิ มิยาโมโตะ อดีตผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของ Square เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับที่สอง

*จากซ้ายไปขวา โยอิจิ วาดะ, มาซาชิ มิยาโมโตะ, เคย์จิ ฮอนดะ

ปัจจุบันสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท Square Enix เป็นดังนี้
1. ยาสึฮิโระ ฟุคุชิมะ - 20.47%
2. บริษัทฟุคุชิมะ (株式会社福嶋企画) - 8.46%
3. Sony Computer Entertainment, Inc. - 8.25%
4. มาซาชิ มิยาโมโตะ - 6.13%

อ้างอิง

http://www.hd.square-enix.com/jpn/ir/stock/shareholder.html

ไม่มีความคิดเห็น