จบลงอย่างดงาม - The World Ends With You

คัดลอกจาก Entry "จบลงอย่างดงาม - The World Ends With You" ที่เผยแพร่ลง Exteen เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2008 หลังเกมเวอร์ชั่น EU วางจำหน่ายได้ 4 วัน และผมได้จบเกมเวอร์ชั่นนี้รอบแรก


------------------------------------------------------------------

........
.........................
T____________,T

หลังจากที่หมดเวลาไปกับการเล่นแบบเจาะลึกทะลุมิติอยู่นานในอาทิตย์ ในที่สุดผมก็เล่นเกม The World Ends With You จบลงพร้อมกับปากกา 2 ด้ามและสมุดอีก 37 หน้า.... ตอนนี้ผมไม่รู้จะบรรยายความประทับใจที่ผมได้รู้สึกจากเกมนี้ให้ฟังอย่างไรดี มันเป็นความรู้สึกสุดยอดที่ผมไม่เคยได้พบจากเกมไหนๆ มาก่อน จะเอาไฟนอลมาซักกี่ภาค ก็ไม่มีภาคไหนเลยที่จะสร้างทั้งเนื้อหา ระบบ และเพลงประกอบ ได้สมบูรณ์เท่ากับเกมนี้อีกแล้ว

เอาเป็นว่าผมจะขอรีวิวเกมนี้ไปทีละส่วน ตามลำดับความคันปากของผมล่ะกัน



-เนื้อเรื่อง-

ประเด็นของเกมนี้อยู่ที่เอาผมปัญหาในจิตใจของเด็ก 3 คนขึ้นมาเล่น ปัญหาของเด็กทั้งสามก็คือการหลอกตัวเองว่าเราเกลียดโลกใบนี้ การหลอกตัวเองว่าเราเกลียดตัวเอง การหลอกตัวเองว่าเราช่างอ่อนแอ ซึ่งในชีวิตจริงของเราๆ ก็มักจะประสบพบเจอคนที่เป็นแบบนั้นอยู่บ่อยๆ ผมเชื่อว่าในบางครั้งที่เรารู้สึกท้อแท้ บางทีเราก็รู้สึกว่าโลกนี้มันเลวร้าย ตัวเราช่างอ่อนแอ แต่เมื่อใดที่หนทางทั้งหน้านั้นเปิดกว้าง ปัญหานั้นถูกคลี่คลาย เราก็จะรู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่เดียวดายอีกต่อไป

เนื้อเรื่องของเกมนี้เกิดขึ้นในสังคมเมืองของญี่ปุ่น โดยจะจับจุดไปที่ชิบุยะซึ่งเป็นแหล่มรวมของวัยรุ่นทั้งหลาย ในเกมเราจะได้เห็นการเสียดสีสังคม มุมมองที่มีต่อสังคมของบุคคลในระดับต่างๆ ซึ่งก็จะมีคนทั้งคนที่มองโลกในแง่ดีและมองโลกในแง่ร้ายกระจัดกระจายกันออกไป ซึ่งเรื่องนี้ค่อนข้างเน้นในเรื่องที่ผู้คนนั้นไม่ค่อยมีความเป็นตัวของตัวเอง เอาแต่ทำตัวตามกระแส ผู้คนเอาแต่วิ่งไล่ตามสิ่งแปลกใหม่ ยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อพยายามจะตามเข้าไปในโลกของผู้อื่น เพื่อที่จะได้มีเพื่อน ดังนั้นแล้วจะมีทางออกอื่นใดที่ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและยังได้เป็นตัวของตัวเอง
ตัวเอกของเกมเป็นเด็กที่ตายไปแล้วและติดอยู่ในโลกหลังความตาย ตัวเขาสูญเสียความทรงจำและไม่รู้ว่าตัวเขาตายไปได้ยังไง สมัยที่ยังมีชีวิตเขาเป็นคนที่ไม่มีเพื่อน เพราะตัวเขาเอาแต่ปิดใจ ปิดกั้นโลกของตัวเองจากการเขาถึงของผู้อื่น เขาสรุปว่าโลกมันเลวร้าย ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วปัญหามันไม่ได้อยู่ที่โลก แต่อยู่ที่ตัวเขาไม่กล้าที่จะเริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นเเอง

ทว่าการที่เขาได้ใช้ชีวิตในโลกหลังความตาย ได้เข้าร่วมการแข่งขันเกมยมทูตเพื่อคัดเลือกคนที่จะได้รับโอกาสให้คืนชีพ มันทำให้เขาค่อยๆ เข้าใจการเป็นมนุษย์ และทำให้เรารู้สึกว่าเขากำลังมีชีวิตอยู่มากกว่าตอนที่เขายังไม่ตายเสียอีก

ในมุมองของคนเล่นเกม เนื้อเรื่องของเกมแบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ แต่ละจุดก็มีหน้าที่ต่างกัน และมันก็ทำเป้าหมายของมันเองได้อย่างสุดยอด ช่วงแรกของเกมเป็นการแนะนำกฎกติกาของเกมยมทูต นิสัยของตัวเอก เป็นการเกริ่นนำเรื่องราวต่างๆ ให้เราเข้าใจ ส่วนที่สองจะเป็นการปลุกเร้าเราด้วยการเอ่ยถึงปริศนาต่างๆ เรื่องที่ชวนให้สงสัย แล้วก็จะมีการพูดถึงปรัชญา การเสียดสีสังคมให้เราฟังเป็นระยะๆ สำหรับส่วนที่สามถึงเป็นส่วนสุดท้ายก็จะเป็นการค่อยๆ แก้ผมปัญหาในเรื่องไปทีละส่วน ขณะเดียวกันยิ่งปมถูกแก้ไปมากเท่าไหร่เราก็จะรู้สึกถึงความซับซ้อนในเรื่องมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เวลาที่เราเล่นเราก็จะสงสัยว่าคนนู้นเป็นบอสใหญ่รึเปล่า คนนี้เป็นบอสใหญ่รึเปล่า ซึ่งกว่าจะเล่นไปจนจบ หลายคนก็คงถูกหลอกไปนับรอบไม่ถ้วนเลยทีเดียว

สำหรับผมแล้วการที่เกมนี้เอาประเด็นเรื่องเด็กมีปัญหามาเล่น เป็นอะไรที่ผมชอบเอามากๆ เนื้อเรื่องก็ซับซ้อนเอามากๆ แถมยังเล่าเรื่องได้ชวนติดตามมากๆ ด้วย ระหว่างที่เล่นเนื้อเรื่องส่วนที่สามอยู่ผมแทบจะลงแดง เพราะอยากจะรู้ให้ได้ว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดกันแน่ แต่พอเล่นไปจนจบแล้วผมก็ได้รู้ตัวว่าผมโดนหลอก (ไปหลายรอบเลยทีเดียว) จริงๆ แล้วคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดก็คือคนที่พูดว่าเขาต้องการกำจัดคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี่เอง (งงอ่ะดิ๊!?)

(วินาทีที่ผมเล่นจบเกมและเห็นชื่อพระเจ้าโนมุระขึ้นมา บอกตรงๆ ว่าผมอยากบินไปกราบตีนพระเจ้าที่ญี่ปุ่นซะตอนนั้นเลย ฮาๆ)



-ระบบ-

คนเล่นเกมนี้ไม่มีสิทธิบ่นว่าเกมยากไปหรือง่ายไป เพราะตัวเกมสามารถเลือกปรับได้ตลอดเวลาว่าจะเล่นแบบ easy, normal, hard และถ้าใครยังไม่สะใจเขายังมีโหมด ultimate hard ไว้ให้พวกโรคจิตที่ชอบโดนเอาตีนเขี่ยทีเดียวตายมาเล่นด้วย ดังนั้นใครที่อารมณ์แปรปรวน บางทีก็อยากเล่นเกมง่ายๆ บางทีก็ยากเล่นเกมยากๆ เกมนี้แหละคือเกมที่สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้เต็มที่ อย่างผมนี่ปกติก็จะเล่น normal แต่ถ้าช่วงไหนอยากเก็บของหายากก็จะปรับความยากให้เป็นแบบ Hard

นอกจากนี้คุณยังสามารถกดลดเลเวลของคุณได้ตลอดเวลา สมมติว่าคุณมีเลเวล 50 แล้วคุณก็สามารถกดลดเลเวลคุณเหลือ 41 ได้...ซึ่งการลดเลเวลนี้จะทำให้ Max HP ของคุณลดลง แต่ข้อดีคือมันจะทำให้อัตราดรอปของเพิ่มมากขึ้น ถ้าลดไป 9 เลเวลนี่อัตราการดรอปก็จะเพิ่มขึ้น 10 เท่าเลยทีเดียว ต้องบอกว่ามันเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่คุ้มค่ามากๆ นอกจากนี้เรายังสามารถปรับเลเวลของเราให้กลับมาเท่าเดิมได้ด้วย

ในเรื่องการต่อสู้ ตัวเอกของเกมจะเป็นไซคิกอัจฉริยะ ดังนั้นระบบของเกมก็จะเป็นการใช้พลังจิตในรูปแบบต่างๆ ในเกมจะมีพลังจิตทั้งหมด 300 รูปแบบ เราสามารถเลือกติดตั้งพลังจิตเข้าไปใช้ในฉากต่อสู้ได้สูงสุด 6 รูปแบบ โดยการขยับ Stylus ที่แตกต่างกันก็จะก่อให้เกิดพลังจิตที่มีรูปแบบต่างกัน ถ้าขีดที่ศัตรูรัวๆ ก็เป็นพลังจิตแบบนึง ถ้าจิ้มค้างแล้วปล่อยก็เป็นแบบหนึ่ง ถ้ากด ตวัดขึ้น ตวัดลง บลาๆๆๆ ก็จะเป็นพลังจิตในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป จุดเด่นของระบบนี้คือตัวเราเองจะได้ขยับมือขวาตลอดเวลา ต้องใช้มันตวัดเขี่ยตลอดเวลาจนไม่มีโอกาสได้พัก ถ้าสู้กับศัตรูเก่งๆ นานๆ นี่ก็ทำให้ปวดมือได้เลยทีเดียว อย่างเมื่อกี้ผมพึ่งสู้กับบอสใหญ่มา ใช้เวลาไป 4 นาที แต่เป็น 4 นาทีที่ผมต้องเอาจริงเต็มที่ ต้องแดชหนี ต้องกระโดดหลบ ต้องโจมตีท่าต่างๆ อย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในแบบที่ก่อความผิดพลาดให้น้อยที่สุด พอชนะได้นี่มือขวาแทบจะหมดแรงเลยครับ

ยัง... อย่าคิดว่ามือซ้ายของคุณจะสุขสบาย เกมนี้เค้าให้คุณบังคับตัวละครสองตัวพร้อมกัน ตัวนึงใช้ Stylus บังคับ ส่วนอีกตัวก็ใช้ปุ่มกดตามปกติ นั่นแปลว่าระหว่างที่คุณเล่นเกมนี้ทั้งมือซ้ายและมือขวาของคุณจะไม่มีโอกาสได้พักเลย เวลาต่อสู้ตัวละครตัวหนึ่งจะสู้กับศัตรูอยู่บนจอบน ส่วนตัวละครอีกตัวก็จะอยู่บนจอล่าง เวลาผมเล่นผมก็จะตั้งใจเล่นตัวนึง ส่วนอีกตัวก็จะกดมั่วๆ ไป แต่ในบางครั้งที่เราเจอศัตรูเก่งๆ เราก็จะกดมั่วไม่ได้ ก็ต้องตั้งใจมองมันทั้งจอบนและจอล่าง ต้องแบ่งสมาธิให้ดี และควบคุมมือซ้ายมือขวาให้ทำงานอย่างไม่มีผิดพลาดถึงจะชนะมันได้

(จริงๆ จะตั้งให้ AI บังคับตัวละครตัวนึงให้อัติโนมัติก็ได้ แต่มันกากกว่าบังคับมั่วเอง เลยไม่อยากพูดถึง)

ปกติเวลาเราเล่นเกมอื่นๆ มันจะไม่ต้องใช้สมองช่วยจำและประมวลผลมากซักเท่าไหร่ สังเกตได้จากเวลาเราเล่นเกมอื่นเรายังสามารถมีเวลาไปคิดเรื่องอื่นได้ แต่สำหรับเกมนี้ การต่อสู้แบบที่ต้องแบ่งแยกประสาทมือซ้ายมือขวา และต้องดูจอบนและจอล่างพร้อมกัน มันแทบจะกลืนกินหน่วยความจำชั่วคราวในสมองของเราจนหมด ถ้าไม่อยากเหนื่อยคุณก็ต้องเล่นแบบกดมั่วตัวนึง (หรือไม่ก็หาคนมาช่วยบังคับตัวละครไปตัวนึง) ขอบอกเลยว่าบอสลับของเกมในแบบ Ultimate Hard นั้นยากนรกแตกมาก ถ้าถามว่ายากขนาดไหน ก็ยากถึงขั้นที่ (หากคุณเล่นคนเดียวแบบผม) คุณต้องสามารถแบ่งแยกประสาทมือซ้ายมือขวา แบ่งแยกการควบคุมระหว่างจอบนจอล่างได้อย่างสมบูรณ์ และบังคับตัวละครไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นเลย คุณถึงจะสามารถเอาชนะมันได้
(มันส์สะใจไปเลยพี่น้อง!!)

-เพลงประกอบ-

เนื่องจากตัวเอกของเกมนี้จะใส่เฮดโฟนครอบหูและเปิดเพลงฟังตลอดเวลา ดังนั้นเพลงประกอบในเกมส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพลงอินดี้ในแบบที่มีเสียงคนร้อง ทั้งนี้ก็เพื่อให้เราได้อารมณ์เหมือนกับว่าเรากำลังเป็นตัวเอกที่เปิดเพลงฟังอยู่ตลอดเวลานี่เอง ตอนผมดูรายชื่อ Vocalist หลังจบเกม.....พบว่ามีคนร้องอยู่เกือบๆ 20 คนได้เลยละมั้ง

ปกติเกมๆ หนึ่งมักจะมีเพลงโดนใจผมอยู่ไม่เกิน 3 เพลง....แต่กับเกมนี้ผมพบว่ามีเกมที่มันกระแทกใจผมมากๆ อยู่ถึง 6 เพลงด้วยกัน (ตอนนี้ก็กำลังฟังวนไปวนมาอยู่) เพลงที่ผมชอบส่วนใหญ่ก็เป็นเพลงร็อคมันส์ๆ ที่จะบรรเลงขึ้นมาในฉากต่อสู้ คิดดูละกันว่าถ้าระหว่างที่มือขวาของเรากำลังตวัด Stylus อย่างบ้าระห่ำ มือซ้ายก็กดปุ่มใช้ท่าต่างๆ อย่างเร็วที่สุด แล้วยังมีเพลงร็อคมันส์ๆ ดังขึ้นเพื่อช่วยส่งอารมณ์ของเราให้ทะยานไปกับเกมด้วย มันจะสุดยอดมากแค่ไหน!? บ่อยครั้งเลยที่พอสู้จบแล้วผมก็ยังปล่อยหน้าจอทิ้งไว้แบบนั้นไม่ให้มันตัดฉาก เพื่อที่จะได้ฟังเพลงเหล่านี้ต่อจนกว่าจะเสร็จสมอารมณ์

(ไม่พลาด OST เวอร์ชั่นอังกฤษแน่)


-สรุป-

เกม Crisis Core เป็นเกมที่ผมชอบที่สุดในบรรดาเกมที่เล่นในปีที่แล้ว แต่ The World Ends With You เป็นเกมที่ดีกว่า Crisis Core ในทุกๆ ด้าน เนื้อเรื่องซับซ้อนและน่าสนใจกว่า สมดุลเกมก็ทำได้ดีกว่า เพลงประกอบโดยรวมก็โดนใจผมมากกว่า จะมีด้านนึงที่ไม่ได้เหนือกว่า Crisis Core ก็คือกราฟฟิค แต่จะว่าไปมันก็เอามาเทียบกันไม่ได้ เพราะ The World Ends With You เค้าใช้กราฟฟิคแบบภาพลายวาดลายเส้น ซึ่งมันก็มีสเน่ห์อันน่าหลงใหลที่ทำให้ไม่สามารถเอาไปเทียบกับโพลิก้อนได้อยู่

พูดจริงๆ ว่าตั้งแต่เล่นมาไม่มีส่วนไหนในเกมที่มันขัดใจจนผมรู้สึกอยากติเลย ตอนแรกผมคิดจะเล่นเกมนี้แบบเผาจบแล้วรีบกลับไปเจาะลึกทะลุมิติกับ FFXII ต่อ...แต่พอรู้สึกตัวอีกที ผมก็ได้ขายวิญญาณให้กับ The World Ends With You ไปแล้ว

เล่นเกมนี้จบแล้ว....จะรักทีม Jupiter และคุณโนมุระขึ้นอีกเยอะเลยครับ!


ไม่มีความคิดเห็น