FFXII - เนื้อเรื่องม็อบตัวที่ 42

42. คิงเบฮีมอธ

ควอมินห์ (Koqmihn) ชายหนุ่มยากจนคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในชุมชนใต้ดินของเมืองราบานัสต้า ได้เล่าขานถึงตำนานบทหนึ่งที่มีที่มาจากนครเทพเบอร์โอมิเซสให้กับเรา เรื่องราวได้พูดต่อกันมาว่าในส่วนลึกของป่ามายานั้น ที่นั้นมีทุ่งหิมะที่ถ้าเราหลงเข้าไปแล้วจะไม่สามารถกลับออกมาได้อีก ตำนานกล่าวว่าพระเจ้าได้ประทานสิ่งมีชีวิตตนหนึ่งซึ่งมีนามว่าคิงเบฮีมอธลงมายังทุ่งแห่งนี้เพื่อคอยเฝ้าดูแลน้องของมัน

เมื่อครั้งที่ชายยากจนดังกล่าวได้ฟังเรื่องราวของตำนานนี้เป็นครั้งแรก เขาก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าทุ่งหิมะดังกล่าวนั้นเป็นทุ่งที่เมื่อพลัดหลงเข้าไปแล้วจะไม่สามารถกลับออกมาได้จริง แล้วผู้คนจะรู้ถึงการมีอยู่ของมันได้อย่างไร? ตำนานนี้เป็นเรื่องจริงหรือเป็นเป็นแค่นิทานหลอกเด็กกันแน่? ทุ่งดังกล่าวนั้นจะเข้าไปแล้วกลับออกมาไม่ได้อีกจริงรึเปล่า? คำถามมากมายได้ผุดขึ้นมาในโสตประสาทของเขา และเขาก็อยากที่จะค้นหาคำตอบของคำถามเหล่านั้น ทว่าปัญหามันติดอยู่ตรงที่ว่า....เขาไม่มีปัญญาที่จะไปพิสูจน์คำถามเหล่านั้นได้

ดังนั้นแล้วควอมินห์จึงได้ขอร้องให้เราช่วยหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความมีอยู่จริงของตำนานให้กับเขา หากเราพิสูจน์ว่าตำนานเป็นจริงได้ เขาสัญญาว่าจะเล่าตอนจบของตำนานให้ฟัง และในตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำก็คือการค้นหาความจริง

สำหรับเรื่องของน้องชายที่คิงเบฮีมอธคอยเฝ้าดูอยู่นั้น ถ้าเราถามเขาว่ามันหมายถึงใคร ควอมินห์ก็จะบอกว่านั่นเป็นเรื่องที่เราต้องคิดเอาเอง แต่ความเป็นจริงแล้วน้องชายดังกล่าวก็คือฟาฟนิล มังกรผู้มีพลังในการควบคุมหิมะ ในอดีตฟาฟนิลได้เคยรุกรานเข้าไปในวิหารมิเลี่ยมด้วยความนึกคิดที่จะช่วงชิงดาบจอมราชันย์ ทว่าสังฆราชอนาสตาซิสก็ได้ใช้พลังของเขาจองจำมันไว้ในภูเขาน้ำแข็งนั่นเอง



หลังจากที่เราสามารถกำจัดคิงเบฮีมอธได้แล้ว เราจะกลับไปยืนยันความจริงของตำนานกับควอมินห์ เมื่อเราเล่าให้เขาฟังว่าตำนานเป็นจริงเพราะเราได้ผจญกับคิงเบฮีมอธตัวเป็นๆ มาแล้ว ชายหนุ่มดังกล่าวก็จะดีใจมาก

ควอมินห์บอกกับเราว่ามีเขามีเรื่องหนึ่งที่จริงๆ แล้วเขาควรจะบอกเรามาตั้งแต่แรก นั่นคือก่อนหน้านี้เพื่อนของเขาได้ออกไปหาหลักฐานการมีอยู่ของตำนาน ทว่าเพื่อนคนนั้นก็ไปแล้วไปลับไม่กลับมาอีกเลย เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกเสียใจ และที่เขาอยากจะพิสูจน์ว่าตำนานนี้เป็นจริงหรือไม่ จริงๆ แล้วเขาก็แค่อยากพิสูจน์ว่าเพื่อนเขาไม่ได้เอาชีวิตไปทิ้งให้กับการตามล่านิทานกล่อมเด็ก ดังนั้นพอเข้ารู้ว่าตำนานเป็นจริง นั่นแปลว่าอย่างน้อยเพื่อนเขาก็ได้ตายเพื่อพิสูจน์ตำนานที่มีอยู่จริง  และนั่นก็ย่อมไม่ใช่การตายอย่างไร้ค่า

หลังจากนั้นควอมินห์ก็จะเล่าตอนจบของตำนานให้เราฟังตามสัญญา บทสุดท้ายของตำนานได้กล่าวว่า “ในยามที่ผู้ดูแลแห่งป่าลึกแพ้พ่าย หนึ่งผู้ที่พิชิตมันได้จักมองไปยังซากมังกรหินตนนั้น เมื่อความปิติยินดีทั้งหลายถูกค้นพบ แม้ว่าซากหินที่เย็นเฉียบจักไม่สามารถขยับเคลื่อนอีกได้ ทว่าด้วยมือของผู้พิชิตที่ทุบลงบนซากนั้น เขาจะค้นพบความอบอุ่นที่อยู่ในตัวของมัน”

ข้อความดังกล่าวคือคำใบ้ที่บอกให้เราไปเดินหาซากฟอซซิลของคิงเบฮีมอธ แล้วก็ลองหวดมันดูซักป๊าบ

ควอมินห์จะยื่นเงิน 250 กิล และ Bacchus’s Wine 2 ชิ้นให้เราเป็นค่าตอบแทน เขาคิดว่านี่คงไม่อาจทดแทนความลำบากที่เราไปเผชิญมาได้ แต่มันก็ย่อมดีกว่าการไม่ให้อะไรตอบแทนเลย

พอเสร็จธุระกับควอมินห์แล้วก็ให้เราเดินทางไปยังนครเทพเบอร์โอมิเซส ซึ่งเป็นสถานที่ๆ มีซากคิงเบฮีมอธตั้งอยู่ ท่ามกลางผู้คนมากมายที่รายล้อม เราคิดว่าการชักอาวุธขึ้นมาหวดเจ้าซากนี่คงไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมนัก ว่าแล้วก็ให้เราลองกระโดดดร็อบคิกใส่ซากดังกล่าวซักหนึ่งที แล้วเราจะเห็นเงิน 500,000 กิล กับ Rod of Faith ตกลงมา ก็ให้ฉกไปเป็นสมบัติส่วนตัวได้เลย

ไม่มีความคิดเห็น