FFXII - เนื้อเรื่องม็อบตัวที่ 45
45. ยัสมัท
ตำนานเล่าขานว่าในแผ่นดินนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดชั่วร้ายไปกว่ามัน ทว่าในที่สุดเวลาที่จะพิชิตมันก็ได้เดินทางมาถึงแล้ว มองบลังซ์ได้เตรียมการรอนักรบผู้มีจิตใจกล้าหาญที่จะมารับคำท้านี้ และเมื่อเราไปคุยกับเขา มองบลังซ์ก็บอกว่าในที่สุดเขาก็ได้พบฮันเตอร์ที่คู่ควรกับงานนี้ แน่นอนว่าเขากำลังพูดถึงเรา!
มองบลังซ์เริ่มเล่าให้ฟังว่าเขาก่อตั้งแคลนนี้ขึ้นมาด้วยความหวังว่าซักวันหนึ่ง เขาจะสามารถปลุกปั้นฮันเตอร์ที่มีความกล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับเป้าหมายที่เขากำลังจะเล่าให้เราฟังได้ เขาบอกว่าเรามีสิทธิที่จะปฏิเสธคำขอของเขาโดยที่เขาจะไม่ขอถามเหตุผลใดๆ จากเรา แต่เขาก็ขอให้เรารับฟังคำร้องขอของเขาก่อนที่จะทำการตัดสินใจ
พอเราเลือกที่จะรับฟัง มองบลังซ์จะขอบคุณและบอกว่านั่นเป็นเรื่องที่มีความหมายกับเขามาก แล้วผู้นำแคลนคนนี้ก็จะเริ่มลังเลไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเล่าจากตรงไหนดี เขาบอกว่าเขาจะพยายามย่อให้สั้นเข้าไว้ละกัน
“ก็อย่างที่รู้ว่าฉันมีพี่น้องอีก 5 คน เราต่างก็มีชีวิตที่สดใสในแบบของเราเอง ตั้งแต่คนที่เป็นช่างเครื่องเรือเหาะ ไปจนถึงคนเลี้ยงโจโคโบะ พวกเราได้เคยเรียนรู้วิธีการทำธุรกิจของพวกเรามาจากอาจารย์ท่านหนึ่ง เขาเป็นนายผู้ปราดเปรื่องซึ่งเราให้ความเคารพไว้สูงสุด คุโปะ! แต่แล้ววันหนึ่งที่สัตว์ร้ายตนนั้นได้ปรากฏกายขึ้น จากนั้นมาพวกเราก็สูญเสียชีวิตที่แสนสุขไปตลอดกาล”
“ตอนนั้นฉันยังเป็นเด็กที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่าการยืนดูสัตว์ร้ายที่กำลังเคลื่อนที่จากไปอย่างช้าๆ คุโปะ! หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่เคยมีใครพบเห็นมันอีก แต่มันยังมีชีวิตอยู่แน่คุโปะ! นายต้องหามันให้พบและกำจัดมันให้ได้!”
“ถ้าฉันมีพลังฉันก็คงจะลงมือเอง ทว่าสัตว์ร้ายนั้นก็ทรงพลังเกินกว่าที่จะกล่าวถึงด้วยคำพูดได้ ไม่มีอ่อนข้อ! ไร้ความปรานี! และน่าสะพรึงกลัวที่สุดในอิวาลิซ ถ้านายสู้กับมัน นายอาจต้องตายไปพร้อมความบากบั่นอันน่ายกย่อง กระนั้นแล้ว..ฉันก็อยากขอร้องนาย ช่วยกำจัดสัตว์ร้ายนั้นที...พิชิตยัสมัทให้จงได้!!!”
หลังจากที่เราสามารถกำจัดยัสมัทได้แล้ว พอกลับมายังบ้านแคลนอีกครั้ง เราก็จะพบขบวนพี่น้องของมองบลังซ์ที่กำลังเดินทางมายังบ้านแคลน เราจะวิ่งผ่านพวกเขาเข้าไปคุยกับมองบลังซ์
“นายทำได้แล้วจริงๆ เหรอ? นายกำจัดยัสมัทได้แล้วงั้นเหรอ? คุโปะ...?”
“ฉัน....ฉันไม่รู้จะพูดยังไงดี คุโปะ...ฉันดีใจ แต่ ฉ....ฉันพูดไม่ออกเลย”
มองบลังซ์ยังคงมีท่าทีอ้ำอึ้ง เขารู้สึกตกใจกับช่วงเวลาที่เขาไม่เคยคิดฝันว่ามันจะมาถึงได้ในที่สุด
โนโนะ (Nono) : ตอนที่ฉันได้ยินว่ายัสมัทถูกโค่นลงแล้ว ฉันก็รีบจ้ำมายังที่แห่งนี้โดยเร็วที่สุด คุโปะ! ไม่ต้องห่วงสตราห์ลหรอกนะ.... ฉันแค่อยากจะมาขอบคุณเป็นการส่วนตัวก็เท่านั้นเอง ฉะนั้นก็...ขอบคุณมากนะ! คุโปะ! ทุกคนต้องตื่นเต้นกับข่าวนี้แน่
ซอร์เบ็ต (Sorbet) : เป็นข่าวดีสุดๆ เลย ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเราจะสามารถหาคนมากำจัดยัสมัทได้ คุโปะ!
ฮาร์ดี (Hurdy) : นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้มาอยู่พร้อมหน้ากันหลังจากที่นายของเราเสียไป คุโปะ พวกเราแยกย้ายกันออกไป ด้วยความหวังที่ว่าพวกเราจะสามารถตามหาใครซักคนที่สามารถพิชิตยัสมัทมาได้ นั่นเป็นช่วงเวลาที่เปล่าเปลี่ยวสำหรับพวกเรามาก คุโปะ!
ฮอร์เน่ (Horne) : ฉันไม่คิดเลยว่าพวกเราทั้ง 6 จะได้มาอยู่กันพร้อมหน้าอีกครั้ง ทว่าในที่สุดพวกเราก็ได้มาอยู่กันพร้อมหน้าในที่แห่งนี้แล้ว นี่เป็นเหตุดีที่ทำให้ครอบครัวของเราได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง! ขอบคุณนะ คุโปะ!
การ์ดี (Gurdy) : นายกำจัดสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในอิวาลิซไปแล้ว นั่นหมายความว่าตอนนี้นายได้กลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดแล้วล่ะ คุโปะ!
มองบลังซ์ : ในที่สุดนายของเราก็จะได้ไปสู่สุขคติเสียที คุโปะ เราจะไม่มีวันลืมพระคุณของนาย ขอขอบคุณอีกครั้ง ฉันมีบางอย่างที่จะมอบให้นาย ของเล็กน้อยแทนความยินดีอันเปี่ยมล้นของฉัน โปรดรับมันไว้พร้อมกับคำขอบคุณของฉันด้วย คุโปะ
(ได้รับเงิน 30,000 กิล พร้อมกับ Godslayer’s Badge)
แม้ว่าจะไม่มียัสมัทอีกต่อไปแล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าแคลนแห่งนี้จะต้องปิดตัวลง ขณะที่พี่น้องของมองบลังซ์ก็แยกย้ายกลับไปทำธุรกิจของตน มองบลังซ์เองก็จะทำหน้าที่หัวหน้าแคลนต่อไป ดังนั้นไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เรากลับมาเยี่ยมบ้านแคลนแห่งนี้อีกครั้ง แคลนเซนทริโอก็พร้อมยินดีต้อนรับเราเสมอ
มองบลังซ์จะบอกว่าเขาไม่มีงานให้เราทำอีกแล้ว เราได้กำจัดเป้าหมายทั้งหมดที่มีแล้ว! เราคือฮันเตอร์ที่เก่งที่สุดเท่าที่อิวาลิซเคยมีมาอย่างไม่ต้องสงสัย และเราก็ได้ทำให้มองบลังซ์ผู้นำแคลนอันดับหนึ่งบนผืนแผ่นดินอิวาลิซภาคภูมิใจมาก
Godslayer’s Badge - เหรียญรางวัลสำหรับการกำจัดสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ มหาเทพมังกร “ยัสมัท” นี่คือสัญลักษณ์ของอัศวินที่แท้จริงแห่งอิวาลิซ
Post a Comment