สรุปเนื้อเรื่อง Final Fantasy XV : Comrades


---------------------------
1. ก่อนเริ่มเกม
---------------------------

1.1 เรื่องราวฝั่ง Kingsglaive (ต่อไปจะเรียกว่า KG)

- ตัวเรา (ผู้เล่น) รับบทเป็นเกลฟที่เคยมีส่วนร่วมในการทรยศกษัตริย์เรจิส และสมคบคิดกับจักรวรรดินิฟไฮม์ในช่วงทำพิธีลงนามสัญญาสงบศึก โดยตอนนั้นจักรวรรดิยื่นเงื่อนไขหลอก ๆ ให้กษัตริย์เรจิสว่าถ้าอยากสงบศึก ต้องยกพื้นที่ทั้งหมดในอาณาจักรลูซิส นอกจากกรุงอินซอมเนียให้ ซึ่งกษัตริย์เรจิสที่ชราลงมากแล้วก็ตัดสินใจจำยอม ส่งผลให้หน่วยเกลฟซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพที่มาจากนอกกรุง ไม่พอใจ เป็นโอกาสให้จักรวรรดิแอบเจรจากับเกลฟกลุ่มนั้นได้ว่าถ้าช่วยทรยศกษัตริย์เรจิส ล้มพิธีลงนามสงบศึก ก็จะมอบอิสรภาพให้กับดินแดนบ้านเกิดของเกลฟเหล่านั้น

- ก่อนพิธีลงนามสงบศึก เราได้รับ sms ข้อความจากลูเช่ ซึ่งเป็นผู้นำในการทรยศของเหล่าเกลฟ โดยลูเช่อธิบายถึงแผนจับตัวลูน่าไปในช่วงลงนามสัญญา เป็นการบีบให้กษัตริย์เรจิสต้องส่งเกลฟออกมานอกกรุงอินซอมเนีย ทำให้การป้องกันภายในเมืองอ่อนแอลง เปิดทางให้จักรวรรดิบุกโจมตีได้ โดยลูเช่ยังกล่าวซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของกษัตริย์เรจิส ที่ได้รับผู้อพยพอย่างเขาเข้าไปอาศัยในกรุงอินซอมเนีย และใช้เป็นบ้านหลังที่ 2 แต่เขาไม่อาจให้อภัยกับการที่กษัตริย์เรจิส ตัดสินใจยกดินแดนทั้งหมดนอกกรุงอินซอมเนียให้จักรวรรดิได้ เขาเกรงว่านั่นจะทำให้เมืองกาลาด (Galahd) ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาถูกทำลายไปด้วย ทั้งนี้ลูเช่ทิ้งท้ายใน sms ไว้ว่า เราจะเลือกเส้นทางไหนต่อก็แล้วแต่เรา แต่สำหรับเขา จะต่อสู้เพื่ออิสรภาพของกาลาด แม้จะต้องถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศก็ตาม เขาจะขอมอบความจงรักภักดีให้กับบ้านเกิดเมืองนอนและพวกพ้องเสมอ

- ในพิธีลงนามสงบศึก ตัวเรา ก็ไปร่วมขบวนการทรยศ เป็นเหตุให้กษัตริย์เรจิสสวรรคต และกรุงอินซอมเนียล่ม เหล่าเกลฟซึ่งรับมอบพลังมาจากกษัตริย์เรจิส ก็สูญเสียพลังพิเศษไป

- แต่แล้วตัวเราเองก็ “เสียชีวิตไป” โดยเกมไม่ได้ระบุว่าเราตายเพราะอะไรหรือจากเหตุการณ์ไหน แต่เป็นเหตุการณ์หลังเราทรยศไปแล้ว

- ด้านลิเบอร์ตัส ได้เดินทางกลับไปยังกาลาดเพื่อรอให้นิกซ์กลับมาหาตามที่เคยคุยทิ้งท้ายกันไว้ แต่รอเท่าไหร่นิกซ์ก็ไม่กลับมา ในไม่ช้าปรากฏการณ์ที่ช่วงกลางคืนยาวนานขึ้นก็บังเกิดขึ้น ทั้งเมืองกาลาดและหมู่บ้านโดยรอบต่างก็โดนเดม่อนเข้ายึดครอง ตอนนั้นเอง ก็มีสัญญาณเรียกระดมพลเกลฟที่ยังมีชีวิตรอด ให้มารวมตัวกันที่เมืองเลสทัลลัม ลิเบอร์ตัสจึงตัดสินใจไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่น โดยตั้งใจไว้ว่าจะช่วยเดินไฟฟ้าให้ส่องสว่างไปจนถึงเมืองกาลาดให้ได้ ทั้งนี้ ลิเบอร์ตัสยังเชื่อว่านิกซ์ยังไม่ตาย และได้เขียนจดหมายถึงนิกซ์ แต่ไม่ได้ส่งและไม่ได้ระบุชื่อผู้รับ โดยบอกนิกซ์ว่าถ้าผ่านมาที่เลสทัลลัมก็มาเยี่ยมกันบ้าง มาจกปลาย่างสักสองไม้แกล้มเบียร์ แล้วช่วยเราเรื่องการต่อสู้ที่อินซอมเนียให้ฟังด้วยนะ

- ตอนที่ลูน่าทำพิธีปลุกลิเวียธานขึ้นมา และน็อคติสกำลังเสียท่าให้ลิเวียธาน ลูน่าก็ได้ทำพิธีปลุกวิญญาณของบรรพกษัตริย์ทั้งหมดขึ้นมาด้วย บรรพกษัตริย์เหล่านั้นนอกจากมอบพลังให้น็อคติสสู้กับลิเวียธานแล้ว ก็ยังทำให้เหล่าเกลฟกลับมาใช้พลังพิเศษได้ตามเดิมอีกครั้ง (เล่าโดยเกลฟหญิงคนหนึ่งในเลสทัลลัม)

- ส่วนเรือที่พวกน็อคติสนั่งไปยังอัลทิสเซีย โดนคลื่นยักษ์ของลิเวียธาน กลืนหายสาบสูญไป


1.2 เรื่องราวฝั่งตัวละครอื่น

- คอร์ : หลังน็อคติสหายตัวไป ก็ได้ตั้งทีมค้นหาน็อคติสขึ้นมา แต่วันหนึ่งเจนเทียน่าก็มาบอกว่าไม่ต้องหาหรอก ถึงวันหนึ่งน็อคติสก็จะกลับมาเอง คอร์เลยสลายทีม แล้วให้แต่ละคนกระจายไปปกป้อง outpost ต่าง ๆ แทน ช่วงหลังคอร์ออกไปสู้ในแนวหน้าน้อยลง และใช้เวลาไปกับการฝึกสอนคนอื่นแทน

- ทัลค็อตต์ : ตอนที่ซิดเดินทางมาถึงไคแอม ก็ได้มอบหมวกให้กับทัลค็อตต์ ซิดวางตัวสนิทสนมราวกับเป็นปู่ของทัลค็อตต์และช่วยเติมเต็มช่องว่างที่จาเร็ดพึ่งตายจากไป

- โมนิก้า : หลังน็อคติสหายตัวไป เธอก็ช่วยอพยพผู้คนและต่อสู้โต้ตอบเดม่อน และแม้บุคลิกต่างจากดัสตินสิ้นเชิง แต่ก็ทำงานร่วมกันได้ดี เป็นคู่หูร่วมกันมามากมายจนทุกวันนี้ จนชาวบ้านซุบซิบนินทาถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองไปทั่ว

- ดัสติน : จริง ๆ แล้วหมอนี่เก่ง แต่วางตัวเงียบ ๆ แบบนั้นเอง ช่วงที่คอร์กับโมนิก้าไม่อยู่ ก็สามารถจัดการเดม่อนแทนได้ และอาวุโสกว่าโมนิก้าด้วย

- ดิโน่ : ก่อนหน้านี้เป็นคอลัมนิสต์ให้สำนึกพิมพ์เมเทโอ ควบกับคราฟท์เครื่องประดับแบบสมัครเล่นขายไปด้วย แต่งานดี จนช่วงหนึ่งเลิกเป็นนักข่าวแล้วหันมาทำงานคราฟท์เต็มตัว ทว่าพอเกิดปรากฏการณ์ช่วงกลางคืนยาวนานขึ้นเรื่อย ๆ แผนก็พังครืน แร่ต่าง ๆ หายากขึ้น แถมวิฟที่เป็นเจ้านายไปก็ต้องการความช่วยเหลือ ดิโน่เลยกลับมาช่วยส่งข่าวภัยคุกคามในลีเด้ (Leide) และหาแร่เพชรต่าง ๆ แถวนั้นไปด้วย | ทัลค็อตต์บอกว่าดิโน่เคยทำงานบริษัทในเลสทัลลัม เป็นผู้สื่อข่าวที่ดังมาก เขียนหนังสือพิมพ์และนิตยสารมากมาย ตอนนี้ดิโน่ก็ใช้คอนเนคชั่นที่เคยสร้างไว้ ทำให้ผู้คนสื่อสารกันได้ และเตือนเรื่องอันตรายให้รู้

- วิฟ : เมื่อช่วงกลางคืนยาวนานขึ้น ก็ใช้อิทธิพลชักจูงชาวเมืองเลสทัลลัมให้ยอมรับผู้อพยพเข้าไปอาศัยอยู่ด้วย และพยายามจะป้องกันปราการสุดท้ายของมนุษยชาตินี้ไว้ให้ได้ วิฟยังใช้ช่องทางวิทยุของบริษัทตนในการชี้นำผู้อพยพและให้กำลังใจฮันเตอร์ ประกาศเกียรติคุณให้เกลฟและฮันเตอร์ที่เสียสละในการต่อสู้

- ซิดนี : เมื่อช่วงกลางคืนยาวนานขึ้น จำใจย้ายออกจากแฮมเมอร์เฮดมาอยู่ในเลสทัลลัม และทำงานดูแลขบวนรถคาร์โก้ ขนส่งปัจจัยจำเป็นส่งไปในมิชชั่นต่าง ๆ

- ซิด : เมื่อช่วงกลางคืนยาวขึ้น ตอนแรกก็คิดจะตายอยู่ที่แฮมเมอร์เฮด แต่โดนซิดนีลากมาอยู่ที่เลสทัลลัมด้วย และแม้เมืองนี้จะเต็มไปด้วยวิศวกร แต่ซิดมีพรสวรรค์ในการดัดแปลงอาวุธสูงเด่นเกินใคร จึงใช้ความสามารถนี้ช่วยเหลือมนุษยชาติด้วย

- อิริส : ปัจจุบันช่วยคอร์ประเมินความเสียหายที่เกิดจากการโจมตีของเดม่อน ช่วยเหลือผู้รอดชีวิต เธอมีความรู้สึกพิเศษกับน็อคติสมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็รู้ว่าไม่มีวันได้คู่กัน จึงสาบานว่าจะไม่แสดงความรักข้างเดียวนี้ออกมา (อธิบายอยู่ในประวัติของอิริส)

- เดฟ : แม้ถูกวางเป็นผู้นำสมาคมฮันเตอร์ต่อจากเอซม่าผู้เป็นแม่ แต่ก็ไม่ได้ขึ้นสักที เพราะขาดความเป็นผู้นำ แต่ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ คอยฝึกฮันเตอร์หน้าใหม่ รวบรวมข้อมูลทางภูมิศาสตร์และนิเวศวิทยา จัดสรรทรัพยากรและกำลังพลระหว่าง outpost

- อราเนีย : หลังระแคะระคายและค้นหาความจริงเรื่องการทดลองสร้างเดม่อนของจักรวรรดิ ก็ลาออกจากกองทัพจักรวรรดิมา จากนั้นก็อุทิศตัวเองและลูกน้องเพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติ ปัจจุบันต่อสู้ร่วมกับคอร์และคนอื่น ๆ 

- ปัจจุบันเหล่าฮันเตอร์เปลี่ยนฐานบัญชาการจากเมืองเมลดาซิโอมาเป็นเมืองเลสทัลลัม แต่เมลดาซิโอก็ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางเหนือของอาณาจักรลูซิสอยู่ดี


---------------------------
2. หลังน็อคติสเข้าสู่การหลับใหล
---------------------------

- ครึ่งปีหลังจากพวกน็อคติสออกเดินเรือไปยังเมืองอัลทิสเซียในทวีปตะวันตก ก็มีข่าวคราวการล่มสลายของจักรวรรดินิฟไฮม์ออกมา แต่กลับไม่มีข่าวคราวการเป็นตายร้ายดีของน็อคติส ในเวลานั้นปรากฏการณ์ช่วงกลางคืนยาวนานขึ้นก็ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างชัดเจน ประชาชนจากกรุงอินซอมเนียและภูมิภาคอื่นของลูซิสต่างก็ขาดผู้ชี้นำ และพากันอพยพไปอยู่ในเมืองเลสทัลลัม

- ด้านน็อคติสนั้นเข้าสู่การหลับใหลในหัวใจของคริสตัล (เชื่อมต่อกับเกาะแองเจิลการ์ด - Angelgard) เพื่อให้คริสตัลบรรจุพลังแสงทั้งหมดลงไปในแหวน แต่หากความมืดและเดม่อนยังคงปกคลุมเกาะแห่งนี้ น็อคติสก็จะไม่สามารถปลุกพลังที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นมาได้ ในระหว่างนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีคนทำหน้าที่ปัดเป่าศัตรูบนเกาะนี้ให้ (อธิบายโดยเจนเทียน่าช่วงท้ายเกม)

- บาฮามุท เล็งเห็นศักยภาพของพวกเกลฟที่ทรยศและตายไปแล้ว รวมถึงตัวเราด้วย เราเคยใช้พลังของกษัตริย์ แต่กลับทรยศกษัตริย์ซะเอง บาฮามุทจึง “คืนชีพ” เราขึ้นมา และให้โอกาสเราพิสูจน์ตัวเองและไถ่บาป โดยบาฮามุทตั้งใจว่าจะปล่อยเราใช้ชีวิตช่วยดูแลผู้คนไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดหนึ่ง ก็จะอัญเชิญเรามาต่อสู้เพื่อพิสูจน์ว่าเรามีค่าพอหรือไม่ หากบาฮามุทยอมรับเราแล้ว ก็จะให้เราสาบานว่าจะภักดีต่อกษัตริย์น็อคติส และใช้ชีวิตที่เหลือในการต่อสู้ปกป้องเกาะแองเจิลการ์ดจนถึงวันตาย (อธิบายอยู่ในประวัติบาฮามุท เวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น)

- ตัวเราและเกลฟอีกหลายคนที่ถูกบาฮามุทคืนชีพขึ้นมา ก็มีความทรงจำเลอะเลือน โดยจำเหตุการณ์ได้ถึงตอนพิธีลงนามสัญญาสงบศึกเท่านั้น หลังจากนั้นเบลอไปหมด (เกลฟคนอื่นก็เล่าว่ามีอาการแบบเดียวกัน จึงลืมเรื่องที่ตัวเองเคยทรยศไป) แล้วลิเบอร์ตัส เอเรีย (Elea) และไมลส์ (Miles) ซึ่งเป็นพวกที่เคยทรยศกษัตริย์เรจิสมาด้วยกัน ก็พาเรานั่งรถมาจนถึงเมืองเลสทัลลัม และบอกว่านี่เป็นเมืองปราการสุดท้ายของมนุษยชาติ

- ลิเบอร์ตัสคืนมีดคู่หนึ่งที่บอกว่าเป็นของเรา ให้กับเรา ตรงมีดนั้นจะสลักชื่อบ้านเกิดของเราไว้ (เลือกอะไรก็ได้) และจะคืนโทรศัพท์มือถือของเราให้ แต่เราจำรหัสปลดล็อคไม่ได้ ทำให้ไม่ได้อ่านข้อมูลในนั้น เลยลืมเรื่องที่ตัวเองเคยเป็นคนทรยศไปซะสนิท

- หลังจากนี้เราก็ทำหน้าที่ช่วยรวบรวมชิ้นส่วนอุกกาบาต เอามาให้โรงงานในเลสทัลลัม ช่วยผลิตไฟฟ้า และขยายสายส่งไฟฟ้าไปทั่วอาณาจักรลูซิส

- วิฟ บอกเราว่าข่าวของเราเป็นที่ฮือฮาของชาวเมืองมาก หลังจากนี้ ก็จะให้ตากล้องคอยติดตามเราไปถ่ายรูปด้วย

- อิริสตอนนี้ขายเสื้ออยู่ในเลสทัลลัม นอกจากขายเสื้อมือสองแล้วยังมีชุดที่เธอเย็บขึ้นใหม่เองด้วย

- อยู่มาวันนึง ไมลส์ได้ไปขนโลงศพของกษัตริย์โบราณกลับมายังเลสทัลลัม เจ้าหน้าที่บอกให้เอาไปเก็บไว้ในชั้นใต้ดินของโรงแรมเลวิลล์ แล้วให้เราไปนอนพักผ่อน คืนนั้นกษัตริย์โบราณเจ้าของสมญา The Oracle ได้บอกว่าเราได้ปลดปล่อยวิญญาณของเขา แล้วให้ตราพลังกับเรามา

- วันหนึ่งเจอทัลค็อตต์เดินอยู่กลางเมือง ผู้คนเลื่องลือว่าหมอนี่เป็นสารานุกรมเดินได้ รู้ทุกอย่าง แต่ทัลค็อตต์บอกว่าเขารู้แค่เรื่องที่ปู่เขียนไว้ในสมุดบันทึกเท่านั้น อย่างเรื่องเกาะที่อยู่นอกกัลดีนคีย์ ชื่อเกาะแองเจิลการ์ด นั้นเดิมปรากฏใน Cosmogony ในตำรานั้นบอกว่าเกาะดังกล่าวเป็นสถานที่ ๆ ทวยเทพมารวมตัวกัน และเป็นศูนย์กลางพลังของดวงดาว โดยในบรรพกาล ก่อนที่จะสร้างราชอาณาจักรขึ้นมา เกาะแห่งนั้นเคยใช้เป็นคุกมาก่อน พวกเราส่งอาชญากรไปยังเกาะนั้นและให้สำนึกบาปของตนเอง แล้วรามูเองก็จะมอบคำพิพากษาให้แก่คนที่ไม่สำนึกผิดด้วยการยิงสายฟ้าฟาดใส่ ปู่เคยว่าไว้แบบนั้น

- วันหนึ่งเราอราเนียปราบเดม่อนที่จะบุกเข้าเมือง หลังชนะได้ ตอนแรกเธอจะชมว่าไม่คิดว่าเราจะดูแลตัวเองได้ แต่พอกลับเข้าไปในเมืองแล้ว เธอกลับบอกว่าเรามีพลังของราชวงศ์อยู่กับตัว ถ้าจัดการเดม่อนไม่ได้เธอคงผิดหวัง

- ซิดมีบ่นให้ฟังว่า น็อคติสอยากให้เขาดัดแปลงอาวุธทุกชิ้นให้ พอทำให้แล้ว มันก็ไม่ขอบคุณสักคำ เรจิสนี่มันสปอยล์ลูกมันจริง ๆ

- วันหนึ่งทัลค็อตต์ได้รับโทรศัพท์จากดิโน่ ได้ข่าวว่าตอนนี้คนที่กัลดินคีย์ยังทำงานกันได้ตามปกติ ทั้ง KG และฮันเตอร์ช่วยกันปกป้องไว้ ทว่าตอนนี้ทุกคนต่างกำลังกังวลกับเกาะแองเจิลการ์ด เนื่องจากเกาะปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกดำ ทัลค็อตต์สงสัยว่าเรื่องนี้มีเทพสักองค์อยู่เบื้องหลังรึเปล่า? (ซึ่งไม่เกี่ยว)

- ซิดบอกว่าอิกนิสเดินทางไปไปที่ลีเด้ ถ้าเจออิกนิสก็ช่วยเขาด้วย ได้ยินว่าอิกนิสไปหาปลาแถวนั้น

- วันหนึ่งทัลค็อตต์ได้ข่าวจากดิโน่เพิ่มเติมว่ากลุ่มฮันเตอร์เห็นเรือขนาดใหญ่ลอยอยู่นอกชายฝั่งกัลดินคีย์ ก็เลยออกทะเลไปหา คาดว่าเรือยักษ์ที่พบน่าจะเป็นเรือของกษัตริย์เรจิส  ลำเดียวกับที่พวกน็อคติสใช้แล่นไปยังอัลทิสเซีย ตอนนี้เรือนั้นโดนพวกเดม่อนล้อมอยู่ แต่พวกฮันเตอร์จะหาทางกู้เรือกลับมาให้ได้

- กลาดิโอ พรอมท์ และอิกนิส จะสลับกันแวะเข้ามาในเมืองเลสทัลลัม และชวนเราฝึกซ้อม เตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาของน็อค พอชนะจะได้ดาบ Samoji, Piercing Bow และ Storm Lance ตามลำดับ

- อิริสบอกว่าลิเบอร์ตัสดูโทรมลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เจอ และบอกว่ากลาดิโอไม่ใช่นักรบคนเดียวในตระกูล ตัวเธอเองก็อยากพิสูจน์ตัวเองให้คอร์เห็นเหมือนกัน แต่คอร์กลับบอกว่าเดม่อนมันอันตรายเกินไป แต่อิริสก็เชื่อว่าไม่มีอะไรที่เธอไม่เคยรับมือมาก่อน สำหรับเรื่องที่เราล้มกลาดิโอลงได้ เธอไม่โกรธ และบอกว่าดีซะอีกที่เป็นการยั้งอีโก้ให้กลาดิโอ แต่เขาจะต้องกลับมาแก้มือแน่

- เกลฟคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าคนก่อตั้งสมาคมฮันเตอร์ก็คืออดีตทหารของอาณาจักรลูซิส ซึ่งแยกตัวออกมาเพื่อปกป้องสันติสุขของผู้คนภายนอกเมือง ตอนที่กษัตริย์สร้างกำแพงเวทย์ล้อมเมืองขึ้นมา ผู้อพยพบางคนที่ฮันเตอร์ช่วยชีวิตไว้ ก็ย้ายเข้าไปอาศัยอยู่ในอินซอมเนีย และเข้าร่วมหน่วย KG ภายหลัง (สื่อว่าทั้งทหาร-ฮันเตอร์-KG สัมพันธ์กันหมด)


---------------------------
3. หลังเดินไฟฟ้าไปจนถึงกัลดินคีย์ได้
---------------------------

- เมื่อเดินไฟฟ้าไปตาม outpost ต่าง ๆ ได้ครบ บาฮามุทจะส่งจิตมาคุยกับเรา และบอกว่าความมืดกำลังคลืบคลานเข้าปกคลุมโลกจนเป็นนิรันดร์ แต่ความหวังยังไม่ดับสูญซะทีเดียว ตราบใดที่ราชาผู้ถูกเลือกยังคงอยู่ เกลฟต้องไปช่วยปกป้องราชา ไปหาเขาซะ บุตรแห่งลูซิส (บาฮามุทเรียกเราไปหาตามแผนที่วางไว้)

- เราจะได้ความทรงจำคืนมา และจำพาสเวิร์ดมือถือได้แล้วว่าเลขพาสเวิร์ดคือ 1129 (เดือนและวันวางจำหน่ายเกม)

- พอเราเปิดมือถือ ก็จะเจอ sms จากลูเช่ และจำได้ว่าเราคือพวกคนทรยศนี่เอง

- ดิโน่โทรมาบอกทัลค็อตต์ว่าพวก KG กู้เรือได้แล้ว และตอนนี้ผูกเรือไว้ที่ท่าของกัลดินคีย์ เรือนั้นอาจจะทำให้รู้ได้ว่าน็อคติสอยู่ที่ไหน

- ทัลค็อตต์เล่าว่าในตอนนี้ เกลฟคนอื่น ๆ บางคนก็มีอาการปวดหัวเป็นพัก ๆ ในระหว่างวัน แล้วก็มีภาพเกาะแองเจิลการ์ด ผุดขึ้นมาในหัว (เป็นวิธีการเรียกไปยังเกาะนั้นของบาฮามุท)

- เราเดินทางไปถึงกัลดินคีย์ เจอลิเบอร์ตัสและเรือที่กู้มาได้แล้ว ลิเบอร์ตัสบอกว่าเขาว่ากันว่าเกาะแองเจิลการ์ด มีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ลูซิส และตอนนี้เราเหมือนโดน summon ไปยังเกาะนั้น

- เรา ลิเบอร์ตัส เอเรีย และไมลส์ นั่งเรือเดินทางไปยังเกาะแองเจิลการ์ดด้วยกัน

- พอไปถึงเกาะ เทพทั้ง 5 ซึ่งประกอบด้วยบาฮามุท ลิเวียธาน ไตตัน รามู ศิวะ จะปรากฏตัวขึ้นมา บาฮามุทถามเราว่าหลังจากนี้จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างคนรักเจ้า (royalist) หรือจะตายอย่างคนล้มเจ้า (จริง ๆ บาฮามุทใช้คำว่าคนทรยศ แต่แปลว่าคนล้มเจ้า ได้ฟีลกว่านะ)

- หลังจากที่เราชนะบาฮามุทในการต่อสู้ได้แล้ว (คิดว่ามันไม่ได้เอาจริง) บาฮามุทจะยอมรับเรา แล้วบอกว่าบาปของเราได้รับการอภัยโทษแล้ว เกียรติแห่งเกลฟได้กลับคืนมา หลังจากนี้ ขอให้เราก้าวต่อไป

- ในประวัติบาฮามุทเวอร์ชั่นญี่ปุ่น จะบอกด้วยว่าในช่วงเวลานี้ บาฮามุทจะมอบร่างกายอันเป็นอมตะให้กับเรา (เพื่อให้เราใช้สู้ปกป้องเกาะนี้จนกว่าน็อคติสจะตื่น)

- เมื่อบาฮามุทบินไปแล้ว เจนเทียน่าบอกว่าเกาะแห่งนี้คือคือที่ ๆ ลูน่าได้ทำพิธีกับวายุเทพ (รามู) และเป็นที่ ๆ ราชาผู้ถูกเลือกได้รับรู้ความจริงจากเทพแห่งดาบ (บาฮามุท) แต่ราชาจะไม่อาจปลุกพลังที่หลับใหลในตัวได้ในระหว่างที่ความมืดเข้าปกคลุมสถานที่ซึ่งบริสุทธิ์ที่สุดนี้ ก็เป็นหน้าที่ของดาบ (หมายถึงเหล่าเกลฟ) ที่จะต้องขจัดความพินาศและปกป้องแสงสว่างต่อไป

- ก็เป็นอันว่าตัวเรา ลิเบอร์ตัส เอเรีย และไมลส์ ได้รับร่างกายอันเป็นอมตะจากบาฮามุท ก็ช่วยกันต่อสู้เพื่อปกป้องเกาะนี้ ร่วมกับเจนเทียน่าและอัมบราด้วย (เล่าอยู่ในประวัติอัมบรา) ไปจนถึงวันที่น็อคติสตื่นขึ้นมา

- สุดท้ายเมื่อแสงจากคริสตัลทั้งหมดถูกบรรจุลงไปในแหวนแห่งกษัตริย์แล้ว บาฮามุทก็ปลุกน็อคติสให้ตื่นขึ้นมา มอบหมายให้น็อคติสไปเผชิญหน้ากับผู้ช่วงชิงอำนาจ และเอาบัลลังค์กลับคืนมา

- เมื่อน็อคเดินออกมาที่ชายฝั่ง ก็เจอลิเบอร์ตัสกับพวกเราที่สะบักสะบอม เจนเทียน่าบอกว่าอย่าให้การเสียสละของพวกเขาต้องสูญเปล่า จงรีบกลับไปยังบัลลังค์และราชาภิเษกเป็นผู้สืบทอดบัลลังค์ที่แท้จริง เจนเทียน่าบอกว่าเส้นทางของพวกเราจะพาดผ่านกันอีก (จะได้พบกันอีกที่อินซอมเนีย) น็อคติสตอบกลับว่าเขาก็หวังเช่นนั้น

- น็อคติสนั่งเรือกลับไปยังกัลดินคีย์คนเดียว เมื่อนั่งรถต่อไปถึงแฮมเมอร์เฮด ก็ได้พบกับอิกนิส พรอมท์ กลาดิโอ

- ตอนนั่งพักคุยกันในร้านอาหาร กลาดิโอบอกว่าพวกเขาเคยร่วมกันสู้กับเกลฟเหล่านั้น พวกนั้นสุดยอดจริง อิกนิสในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นจะบอกว่าพวกเราต้องทำ “ความปรารถนาสุดท้าย” ของพวกเกลฟเหล่านั้นให้เป็นจริง ความหวังของพวกเขาเหล่านั้น ขึ้นอยู่กับตัวพวกเราแล้ว

- ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นอิกนิสใช้รูปประโยคว่า “彼らの遺志はオレ達が継ぐ その想いと共に おまえを支えるつもりだ” ซึ่งสื่อว่าอิกนิสเชื่อว่าพวกเราเหล่าเกลฟที่ไปยังเกาะแองเจิลการ์ด รวมถึงลิเบอร์ตัส เอเรีย ไมลส์ และสู้ปกป้องเกาะนั้นจนถึงวันที่น็อคติสตื่นขึ้นมา ได้ตายจากไปหมดแล้วนั่นเอง แต่จาก DLC Royal Pack ซึ่งมีอัปเดตเควสต์ให้ตัวอวตารเราโผล่มาในอินซอมเนีย ทำให้รู้ว่าเรายังไม่ได้ตาย (จริง ๆ ตามข้อมูลใน Data Log ของบาฮามุท เราก็ตายตั้งแต่ก่อนเริ่มเรื่องแล้ว บาฮามุทแค่คืนชีพเรามาใช้งาน ที่มอบร่างอมตะให้ ก็มอบเพื่อให้ปกป้องเกาะเท่านั้น)


---------------------------
4. เรื่องเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ
---------------------------

- บันทึกของซาเนีย : พบกบติดเชื้อพลาสโมเดียม โดยพวกนี้จะจับกลุ่มกันและอยู่รอบติ่งเนื้อแปลก ๆ ที่งอกขึ้นมาจากดิน เธอเรียกมันว่า Nidus และสันนิษฐานว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แบคทีเรียพลาสโมเดียม เธอเดาว่าถ้า Nidus เป็นจุดเกิดของพวกเดม่อน การทำลายมันก็อาจจะช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของโรคแห่งดวงดาวได้

- บันทึกบอกว่าแอ็คคอร์โดยังเป็นพันธมิตรอย่างลับ ๆ กับลูซิสอยู่ ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นได้เพราะเรจิสตอนหนุ่ม ๆ นั่งเรือข้ามน้ำข้ามทะเลร่วมกับพระสหายมาเจรจาถึงที่ หลังคราวนั้น เรือก็ถูกซ่อนไว้ใต้ไคแอมอยู่นาน 30 ปี แล้วน็อคติสก็เอามาแล่นไปอัลทิสเซีย แต่หลังจากนั้นเรือก็ถูกคลื่นกลืนและหายสาบสูญไป แต่พวกฮันเตอร์ก็ช่วยกันตามหาและหาทางกู้เรือกลับมา

- เอกสาร KG : เกลฟที่เหลือรอดอยู่ตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ดี จึงปล่อยวางเรื่องที่มีปัญหาทรยศกันไว้ แล้วสู้เคียงข้างไปด้วยกัน ตอนนี้ไม่ใช่เพื่อครอบครัวและบ้านเกิดแล้ว แต่เป็นเพื่อสันติสุขของมนุษยชาติ

- เอกสารแองเจิลการ์ด : เกาะสองง่ามทางตอนใต้ของกัลดินคีย์ ว่ากันว่าเป็นที่ทวยเทพมารวมตัวและเป็นศูนย์กลางพลังของดวงดาว คนทั่วไปไม่สามารถเข้าไปได้ เชื้อพระวงศ์ก็เข้าไม่ได้เช่น แต่แม้ว่าปัจจุบันเกาะนี้จะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สมัยโบราณเคยเป็นคุกกลางทะเลมาก่อน อาชญากรจะถูกเนรเทศมาอยู่ที่นี่ แล้วรามูจะพิพากษา ลงโทษคนบาปที่ไม่สำนึก ผู้คนมากมายเชื่อว่านี่เป็นนิทาน แต่การที่ลูน่าเดินทางไปทำพิธีปลุกรามูที่เกาะนี้ แสดงว่านี่เป็นเรื่องจริง

- ประวัติอัมบรา : ยืนหยัดต่อสู้ปกป้องแองเจิลการ์ดจากความมืดร่วมกับเกลฟและเจนเทียน่า รอคอยการกลับมาของราชา

- ประวัติเจนเทียน่า : มาเยือนเทเนแบรตอนที่ลูน่าเกิด อาศัยอยู่ที่นั่นและคอยให้คำปรึกษาเธอ ที่คอร์ยกเลิกการค้นหาน็อคติสก็เพราะเจนเทียน่าบอกว่าราชาจะกลับมาเอง เธอร่วมมือกับเกลฟปกป้องแองเติลการ์ด

- ประวัติบาฮามุท : เทพแห่งสงคราม เป็นตราสัญลักษณ์ของหน่วย KG หลังจากเหล่าเกลฟที่ทรยศได้มาให้สัตย์สาบานว่าจะจงรักภักดีต่อน็อคติส และพิสูจน์ว่าคู่ควรแล้ว บาฮามุทก็ให้การยอมรับ และให้อภัยต่อบาปในอดีต | ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นจะบอกว่าบาฮามุทคืนชีพเกลฟที่ตายไปแล้ว เพื่อให้โอกาสล้างบาป และมอบร่างอันเป็นอมตะให้หลังจากที่ได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว

- ประวัติรามู : เทพแห่งวายุ ดูแลกฎแห่งธรรมชาติ พิพากษาผู้ที่เป็นภัยต่อดวงดาว หลังจากสงครามระหว่างเทพแล้วก็ได้เข้าสู่การหลับใหลที่แองเจิลการ์ดและพอตื่นขึ้นมา ก็มาที่ดัสก้า ทำลายล้างพวกจักรวรรดิที่ย่างกรายเข้ามา

- ประวัติลิเวียธาน : เทพธิดาแห่งท้องทะล (เป็นตัวเมีย) หลังจากโดนจักรวรรดิโจมตี ก็พิโรธ สร้างห้วงน้ำวนยักษ์ขึ้นมาถล่มอัลทิสเซีย ผู้คนล้มตายมากมาย

- ประวัติไตตัน : เทพแห่งพสุธา ตำนานเล่าว่าเคยดูดซับพลังตอนที่เมเทโอตกลงมายังอิออส ปัจจุบันกลายเป็นเศษอุกกาบาตที่มอบแสงสว่างให้กับลูซิส

- ประวัติศิวะ : ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลที่หุบเขาโกโวรัส นำสายลมแห่งความตายถล่มกองทัพจักรวรรดิไปครึ่ง ก่อนที่กายหยาบจะตายไป ศิวะเป็นร่างจริงของจิตวิญญาณที่อวตารเป็นเจนเทียน่า ใช้ทั้งร่างสวรรค์ (Celestial Form) และกายเนื้อ (Material Body) ช่วยอิออสจากโรคแห่งดวงดาว

ไม่มีความคิดเห็น