รีวิว Life is Strange 2 เรื่องราวแห่งการเดินทางหนีคดีด้วยเส้นทางธรรมชาติ


หลังจากโอ้เอ้มาสัปดาห์นึง เมื่อคืนผมก็ได้เล่น Life is Strange 2 Episode 5 (จบภาค) จนจบละครับ เลยอยากจะบรรยายความประทับใจ และเชิญชวนให้แฟน ๆ ภาคแรกที่ยังลังเล มาเล่นเกมในภาคที่ 2 นี้กันต่อ

[1. บทนำเรื่อง]

Life is Strange 2 เป็นเรื่องราวการเดินทางของสองพี่น้อง ชอนและแดเนียล ที่วันหนึ่งไปมีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนบ้าน ตำรวจพยายามเข้ามาระงับเหตุ พ่อของทั้งสองพยายามเข้ามาปรามแต่แล้วก็โดนตำรวจยิงร่วงต่อหน้าต่อตา

ความตระหนกตกใจต่อเหตุการณ์นั้น ทำให้แดเนียล เด็กประถมวัย 9 ขวบ ได้รับพลังพิเศษและปลดปล่อยออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ที่บริเวณนั้น และทำให้ตำรวจเสียชีวิต

ด้วยความตื่นตกใจ และกลัวการถูกจับกุมเข้าซังเต ชอนที่เป็นพี่ชายวัย 16 ปีจึงพาน้องชายหนีไปจากที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด

ชอนเสนอความคิดว่าทั้งสองน่าจะเดินทางข้ามพรมแดนอเมริกาไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เม็กซิโกซึ่งเป็นบ้านเกิดของพ่อ ถ้าหนีไปที่นั่นแล้วก็จะรอดพ้นจากการจับกุมได้

แล้วการเดินทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาม ที่พี่ชายวัยรุ่นต้องคอยปกป้องและสั่งสอนน้องชายให้ใช้พลังไปในทางที่ถูกต้อง ก็ได้เริ่มต้นขึ้น

[2. การเดินทางที่แสนเจ็บปวด]

ในขณะที่ผมรู้สึกว่า Life is Strange ภาคแรก เป็นเรื่องราวที่มีทั้งสุขและทุกข์ปนกัน แต่เนื้อเรื่องในภาค 2 นี้กลับค่อนข้างหนักไปทางเจ็บปวดและรวดร้าว

ตลอดเส้นทางสู่เม็กซิโก สองพี่น้องจะเจอเรื่องเศร้า การเหยียดชาติพันธุ์ การทำร้ายร่างกาย การหลอกลวง การพลัดพราก

แม้จะพบเจอคนดี ๆ และได้รับมิตรภาพมากมายด้วยเหมือนกัน แต่ความเจ็บปวดแต่ละอย่างที่ได้รับนั้น ผมเชื่อว่ามันได้กลายเป็นแผลบาดลึกลงไปในทั้งร่างกายและจิตใจของสองพี่น้อง

[3. คำถามต่อจารีต-ค่านิยมในสังคม]

ในขณะที่ Life is Strange ภาคแรกเป็นเรื่องราวในโรงเรียน ตัวละครตลอด 5 Chapter ของภาคแรกก็เป็นตัวละครชุดเดิม ที่จะค่อย ๆ เผยมิติและเรื่องราวใหม่ ๆ ให้เราเรียนรู้และลุ้นตามไปเรื่อย ๆ ในแต่ละตอน

แต่การผจญภัยใน Life is Strange 2 เป็นการเดินทางไปเรื่อย ๆ ที่เราจะได้พบเจอคนมากมายผ่านเข้ามาตลอดเส้นทาง ได้มีช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันระยะหนึ่งให้ได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนน้ำใจหรือสร้างภัยปัญหาให้แก่กัน ก่อนที่จะแยกจากกันไป

เนื้อเรื่องภาคนี้ค่อนข้างเน้นเรื่องความแตกต่างของปัจเจกบุคคล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนเรามีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ มีรสนิยมที่แตกต่างกัน

ตัวละครมากมายในเรื่อง นำเสนอถึงความเป็นขบถทางความคิดในรูปแบบต่าง ๆ... เอ่อ ผมหมายถึงพวกเขาปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามจารีต-ค่านิยมของสังคม

จารีตที่เป็นประเด็นในเรื่องอย่างเช่น... ชายต้องรักหญิง หญิงต้องรักชาย ทรงผมต้องถูกระเบียบ เป็นเด็กต้องตั้งใจเรียน เรียนจบมาแล้วต้องก้มหน้าก้มตาทำงานหนัก ทำงานแล้วก็แต่งงานมีครอบครัว มีลูก เป็นสามี/ภรรยาที่ดี แล้วจะได้รับการยอมรับจากสังคมว่าคุณเป็นคนดีมีความสุข...

ซึ่งไอ้จารีตหรือค่านิยมเหล่านี้ มันไม่ได้ทำให้ชีวิตของทุกคน เป็นชีวิตที่ดีได้เสมอไป....

การจะปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติตามจารีตเหล่านั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดเสมอไป... หากแต่เมื่อคุณไม่ปฏิบัติตาม สังคมก็จะประณามหยามเหยียดและชิงชังคุณ นั่นคือสิ่งที่ตัวละครมากมายในเรื่องเผชิญกันมา

มันก็ชวนให้ตั้งคำถามนะครับว่า... ทุกวันนี้เรากำลังเดินตามจารีตอะไรที่ทำให้เราไม่มีความสุขอยู่รึเปล่า? หรือเราไปประณามใครเพียงเพราะเขาไม่ทำตามค่านิยมของสังคมรึเปล่า?

[4. เกมเพลย์ที่ไม่มีกิมมิคย้อนเวลา]

เนื่องจากเนื้อเรื่องภาคนี้เราไม่ได้เล่นเป็นผู้มีพลังพิเศษ แต่เราเล่นเป็นพี่ชายของผู้ที่มีพลังพิเศษ

ไอ้ลูกเล่นแบบกิมมิคกดย้อนเวลาได้ด้วยพลังพิเศษ อย่างเกมในภาคแรกนั้น จึงไม่มีในเกมนี้แล้ว

มันเลยทำให้ Life is Strange 2 กลายเป็นเกมที่เดิน ๆ - เลือกตอบคำถาม - สำรวจข้าวของภาพถ่าย/บันทึกเพื่อเรียนรู้เนื้อเรื่องในอดีต - เสพสุนทรีย์ของอาร์ตในเรื่อง - รอดูผลลัพธ์จากการตัดสินใจต่าง ๆ ของเรา

พูดจริง ๆ ว่าพอไม่มีพลังพิเศษให้เรากดใช้เองแบบภาคแรกแล้ว มันก็ลดทอนความสนุกของการเล่นลงไปบ้าง แต่ทีมงานก็พยายามผลักดันส่วนอื่น ๆ ของเกมขึ้นมาทดแทนสิ่งเหล่านั้น

[5. ฉากจบ 7 แบบ]

ในขณะที่ Life is Stange 1 มีฉากจบ 2 แบบ และขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในช่วงสุดท้ายของเรา แต่ภาคนี้ทางผู้พัฒนาออกมาประกาศเองว่ามีฉากจบด้วยกัน 7 แบบ ซึ่งพอเราเล่นไปแล้ว ก็จะได้พบเจอฉากจบที่เหมาะกับนิสัยของเรามากที่สุด

โดยการจะได้พบฉากจบแบบไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับทั้งการตัดสินใจในช่วงสุดท้ายของเราที่ควบคุมชอน, การผูกสัมพันธ์กับคนในเรื่อง และการที่เราเลือกจะสอนแดเนียลให้เป็นคนอย่างไรในตลอดเวลาที่ผ่านมา

ผมได้ฉากจบที่แว้บแรกรู้สึกถึงความเหงา ไม่มีคำบรรยายใด ๆ มีแต่เสียงดนตรีบรรเลงคลอ แต่ก็รู้สึกได้ถึงความสุนทรีย์ และความอบอุ่น ความหวังที่อยู่ห่างไกล....

[6. พลังพิเศษของแดเนียล]

ขณะที่อีแมกซ์ เอ่อ... ก็แมกซ์ หรือแมกซีน ในภาคแรกนั่นแหละครับ มีพลังในการย้อนเวลา

แต่แดเนียล มีพลัง Telekinesis.... หรือการใช้พลังจิตควบคุมการเคลื่อนไหวของวัตถุ

หากเจาะลึกลงไปกว่านั้น ผมว่าแดเนียลมีพลังแบบเดียวกับเล็วล์ (Layle) ใน Final Fantasy Crystal Chronicle -The Crystal Bearers-

พลังของพวกเขาคือการปล่อยแรงดูด-ผลักออกจากอวัยวะ ซึ่งปกติจะใช้มือเป็นสื่อนำพลัง... ในเบื้องต้นก็จะใช้พลังหยิบฉวยหรือผลักวัตถุให้กระเด็นออกไปได้

แต่ถ้าพัฒนาทักษะจน Advance ขึ้น ก็จะกลายเป็นปล่อยแรงระเบิด หรือสร้างบาร์เรียร์ให้ตนเองได้

[7. เรื่องราวที่เชื่อมโยงถึงภาคแรก]

ในตอนเริ่มเกมภาคนี้ เราจะถูกถามว่าตอนจบภาคแรก เราได้ช่วยเมือง Arcadia Bay ไว้รึเปล่า? ซึ่งพอเราเดินทางผ่านไปยังเมืองนั้น ก็จะได้เห็นเมืองที่สมบูรณ์หรือเมืองที่กลายเป็นซาก แล้วแต่เราเลือก

ทว่าในช่วงท้ายเกม เราจะได้พบตัวละครตัวหนึ่งที่ปรากฏในภาคแรก และอาจได้ยิน/ได้เห็น ได้รับรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวละครในภาคแรก

แฟนภาคแรก บอกเลยว่าเจอมุกนี้เข้าไป.... แม่งตื้นตันนนน T3T อยากให้ไปลองเล่นแล้วเจอด้วยตัวเองครับ

[8. Life is Strange ชีวิตที่ยังต้องดำเนินต่อไป]

โดยรวมแล้วผมว่า Life is Strange 2 ไม่ค่อยถูกจริตผมเท่าไหร่ เล่นแล้วเจอเรื่องให้หดหู่เยอะ.... กิมมิคแบบภาคแรกก็ไม่มี แถมเป็นเกมที่ต้องอ่านเยอะ สำรวจเยอะ และเราเรียนรู้เนื้อเรื่องส่วนใหญ่จากการสำรวจข้าวของเนี่ยแหละ

โอเคว่าข้อเสียมันใหญ่ แต่ข้อดีของมันก็ดี ทั้งเพลงที่เพราะ การถ่ายทอดเรื่องราวและซีนต่าง ๆ ในแบบที่สุนทรีย์อาร์ต ๆ

ท้ายที่สุด เกมก็ใส่ฉากจบมาเยอะถึง 7 แบบ โดยเงื่อนไขการออกฉากจบใด ก็ขึ้นกับทั้งการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของเรา, การผูกสัมพันธ์ตัวละครในเรื่อง การสอนสั่งแดเนียลตลอดเวลาที่ผ่านมา ตรงนี้ผมถือว่าทีมงานทำได้ดีขึ้นกว่าภาคแรกที่มีฉากจบแค่สองแบบ

ไหนจะลูกเล่นการเชื่อมโยงและเล่าถึงตัวละครในภาคแรก ในแบบที่แฟน ๆ ต้องร้องเฮ่ย!!

ผมอาจพูดไม่ได้ว่า Life is Strange 2 เป็นเกมที่ดี หรือเกมที่สนุก... เต็ม 10 ก็เอาไปแค่ 7 พอหรืออาจจะต่ำกว่านั้น

แต่ผลงานที่ออกมา มันทำให้ผมเชื่อมั่นว่าทีม DONTNOD เป็นทีมงานที่มีศักยภาพจะทำเกมที่ดีออกมา และเมื่อจักรวาล Life is Strange ขยายออกไปมากกว่านี้ เมื่อทีมงานมีประสบการณ์และมีทุนมากกว่านี้ พวกเขาจะต้องทำงานที่ดีขึ้น และเป็นที่ประทับใจของใครหลายคน แบบ Life is Strange ภาคแรกได้อีกแน่

ก็อยากจะสนับสนุน DONTNOD ต่อไป เพื่อให้พวกเขาได้สร้าง Life is Strange 3 ขึ้นมา...

แค่คิดว่าในอนาคต คงจะมีสักภาคที่ตัวละครหลักผู้มีพลังพิเศษทั้งหมดได้มาเจอกัน... และร่วมกันไขปริศนาว่าพลังพิเศษของพวกเขามาจากไหน และมีไว้เพื่ออะไรกันแน่...

ก็ตื่นเต้น และอยากให้วันนั้นมาถึงเร็ว ๆ ครับ : )

ไม่มีความคิดเห็น