เปิดเผยข้อมูลชุดสามจาก FFVII Remake Ultimania


ข้อมูลเบ็ดเตล็ดจาก Ultimania (บันทึกการอ่านส่วนตัว) เท่าที่แอบแปลระหว่างเผางานในเวลางานวันนี้

---------------------------------------------------

13. ข้อมูลส่วนนี้มาจากภาพสแกนที่คุณ Thanakorn Nawangkoun ส่งให้หลังไมค์ ขอบพระคุณมากครับ

บิ๊กอายุ 25
เจสซีอายุ 23
เวจด์อายุ 20

- สมบัติ 3 ชิ้นของดอน คอร์เนโอ เอาชื่อและดีไซน์มาจากรูบี้ เอเมรัลด์ และไดมอนด์เวพ่อน (ตามคาด)

- ตอนเริ่ม Chapter 17 ในห้องของแอริธ มีหนังสือปกสีน้ำเงิน ซึ่งแต่งโดย ศจ.กัสต์ พ่อของเธอวางอยู่ข้างโซฟา เป็นหนังสือเรื่องว่า "มาโคคืออะไร?"

- ตึกชินระชั้น 60 Memorial Floor ห้องพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ชินระ ตรงภาพถ่ายหมู่พนักงานบริษัทยุคเก่า ตรงกลางภาพมีชายสวมหน้ากากประหลาด ซึ่งหน้ากากนั้นแทบจะเหมือนเป๊ะกับหน้ากากของชินระเด็กอัจฉริยะใน FFX-2, ส่วนคนใส่สูทที่นั่งข้าง ๆ คือเพรสซิเดนท์ชินระ ตอนหนุ่ม ๆ รึเปล่านะ? (อัลติมาเนียเขียนกวนตีนทิ้งไว้เป็นประโยคคำถาม ก็ไม่ได้สรุปอะไรให้อยู่ดี)

14. อันนี้เป็นข้อมูลจิปาถะ จากหน้า Profile ตัวละครแต่ละตัวที่คุณ Audrey แปลไว้ ผมลงไว้แต่ส่วนที่ผมสะดุดตาละกัน

- เดิมทีแล้วคลาวด์ไม่มีความสนใจในภารกิจของอวาแลนซ์ที่จะปกป้องดวงดาวเลย คลาวด์ทำงานโดยมองเพียงว่ามันก็แค่งานชิ้นนึงเท่านั้น แต่มุมมองของเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปหลังจากที่เขาได้รู้จักเพื่อนสมาชิกแต่ละคนมากขึ้น

- เวลาที่คนอื่นเรียกคลาวด์ว่าเป็น SOLDIER คลาวด์จะพูดทักท้วงว่าเรื่องนั้นเป็น 'อดีต' (元/EX-) เพราะแม้ตัวเองจะได้รับพลังมาแบบ SOLDIER แต่ตัวเขาเองไม่รับใช้ชินระอีกต่อไป ก็เลยปฏิเสธคำเรียกนั้น และเป็นการประกาศจุดยืนไปด้วยว่าเขาต่อต้านชินระ

- คลาวด์ที่รับจ้างสารพัด ช่วยแก้ปัญหาให้คนไปทั่ว ทั้งที่เป็นงานที่สร้างความศรัทธาให้ผู้อื่น แต่ตัวแกเองไม่ถนัดในการสุงสิงกับผู้คน ก็เป็นพวกสื่อสารไม่เก่ง

- คลาวด์เจ็บปวดจากอาการปวดหัวที่มา ๆ หาย ๆ อย่างเป็นปริศนา ความเจ็บปวดมักจะมาพร้อมการเห็นภาพในวัยเด็ก ภาพคู่แค้นแห่งชะตากรรมอย่างเซฟิรอธ หรือภาพอดีตต่าง ๆ บางครั้งเขาก็เห็นภาพนิมิตจากอนาคตผสมปนเข้ามาด้วย อาการปวดหัวของเขาเต็มไปด้วยปริศนา บางทีอาการปวดหัวที่เขาเป็น อาจจะมีต้นตอสาเหตุมากกว่า 1 อย่าง...?

15. - แบร์เร็ต (อายุ 35 ปี สูง 197 ซม.) และลูกน้องอวาแลนซ์ในทีม เคลื่อนไหวในแนวทางที่แตกต่างจากอวาแลนซ์กลุ่มหลัก (HQ) เรียกว่าแยกเป็นหน่วยย่อยออกมา แบร์เร็ตถอนตัวจากวิถีสุดแสนอันตรายที่ HQ ใช้ (ไปดูวีรกรรมกันได้ในภาค Before Crisis แต่ที่สะเด่าสุดคือจะยึดปืนใหญ่มาโคแคนน่อนที่จูน่อนเพื่อยิงถล่มสำนักงานใหญ่ชินระ) และมาสร้างวิถีของตนเองร่วมกับบิ๊ก เวจด์ เจสซี ในมิดการ์

- เหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของแบร์เร็ต ก็คือมาร์ลีนที่เขารักยิ่ง เขาภาวนาที่จะได้อยู่เคียงข้างเธอ และรู้สึกเจ็บปวดเสมอที่ปล่อยให้เธอต้องโดดเดี่ยวจากการที่เขาต้องจากเธอไปต่อสู้กับชินระอยู่เรื่อย ๆ เขา

16. - เส็ง (อายุ 30 ปี) *ขอเรียกแบบนี้เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าเป็นคนจากยุคไหน

- ทำงาน Turks มาตั้งแต่สมัยหนุ่ม ๆ แต่ไม่ได้ไปออกงานภาคสนามมาระยะหนึ่งแล้ว แต่คอยมอบหมายงานให้เรโน่และรู๊ดที่เป็นลูกน้องไปจัดการแทน เขาคอยจับตาดูแอริธและปกป้องเธอมาเป็นเวลานาน เฝ้าดูแลเธอตั้งแต่เมื่อครั้งยังเด็ก

- เส็งยังต้องทำงานเอกสารที่โต๊ะในออฟฟิศด้วย

17. - รูฟัส (อายุ 30 ปี) *หรือใครจะเรียกรูฟาอุสก็ไม่ว่ากัน

- ทายาทผู้ทะเยอทะยานและมีความมั่นสุดโต่ง

- เป็นบุตรชายของเพรสซิเดนท์ ชินระ และเป็นรองประธานบริษัท มีแนวทางการบริหารที่แตกต่างจากพ่อ และแม้จะมีอำนาจบังคับบัญชาเป็นอันดับที่ 2 แต่ก็ไม่มีอำนาจที่จะตัดสินใจอะไรเอง เขาเป็นคนที่ต่อต้านเพรสซิเดนท์มาตั้งแต่แรก แถมยังพยายามแย่งชิงตำแหน่งประธานบริษัทมาจากพ่อของตัวเอง เขาเดินทางไปทำธุรกิจระยะยาว ไม่ได้กลับสำนักงานใหญ่ชินระมานาน แต่พึ่งได้กลับมาหลังจากเหตุการณ์ที่เพลทของมิดการ์เขต 7 ถล่มลงมา

**(ใน Before Crisis ตอนที่ 17 ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 0003 หรือก่อนภาคหลัก 4 ปี รูฟัสที่โดนจับได้ว่าไปร่วมมือกับอวาแลนซ์เพื่อเลื่อยขาเก้าอี้พ่อ ก็ถูกเพรสซิเดนท์สั่งไปกักบริเวณในสำนักงานลับของ Turks โดยมีแค่พวก Turks และตัวเพรสซิเดนท์เองเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ ส่วนคนอื่นล้วนถูกโกหกด้วยการบอกว่ารูฟัสไปเจรจาธุรกิจระยะยาววววว)
https://www.facebook.com/ReFFplanet/photos/a.2578702595521179/2792808947443875

- รูฟัสมีสุนัขทหารชื่อ Dark Nation (เวอร์ชั่นอังกฤษชื่อ Dark Star) และใช้ปืนลูกซองที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษขัดขวางเส้นทางของคลาวด์

18. (ผู้สัมภาษณ์) ในตอนจบเกม คำว่า "The Unknown Journey Will Continue" ที่ปรากฏขึ้น มีความหมายอย่างไร?

โนมุระ : แต่เดิมแล้วมีอีกประโยคนึงที่พวกเราจะใส่เข้าไปแทน แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่างเราตัดสินใจที่จะเปลี่ยนมัน (ให้เป็น The Unknown Journey Will Continue แทน) คิตาเสะซังบอกผมว่าควรจะใส่อะไรที่มันเชื่อมโยงกับสิ่งที่สานต่อไปจากฉากจบ ผมเองก็อยากจะใส่อะไรบางอย่างลงไปเหมือนกัน ท้ายที่สุดเราก็เลยใช้ประโยคนั้น ผมว่าบางคนอาจมองว่าความหมายของประโยคนั้นคือความไม่แน่นอน แต่เราก็ได้มีคิดพิจารณาไว้แล้วล่ะ
https://twitter.com/aitaikimochi/status/1255139548486488068

ไม่มีความคิดเห็น