บทสัมภาษณ์เท็ตสึยะ โนมุระ เรื่อง Stranger of Paradise: Final Fantasy Origin



------------------------------------------
การพัฒนา
------------------------------------------

- โนะบอกว่าในส่วนการทำงาน ตอนทำ Dissidia FF Arcade และ NT กับ Team Ninja เนื่องจากเกมมันต้องอยู่บนพื้นฐานจากภาค PSP ทาง Team Ninja เลยปล่อยของได้ไม่เต็มที่ แต่พอมาเป็นเกมนี้ซึ่งเป็นเกม Action ความยากสูง ซึ่งเป็นจุดแข็งของ Team Ninja อยู่แล้ว เขาก็ปล่อยของได้มากกว่า

- ในส่วน Action ของเกม ก็ให้ Team Ninja เป็น lead ในการพัฒนาเลย ทว่าในส่วนของ Production, Graphic ฯลฯ ทางพวกโนะก็ต้องไม่ยอมน้อยหน้า มันก็เป็นการแข่งขันกันในหมู่ทีมงาน ดังนั้น FF Origin นี้ก็เปรียบได้ดั่งคริสตัลที่เกิดจากการปะทะกันนั่นเอง

- โนะเสริมว่า ปะทะนี่ไม่ใช่ความหมายเนกาทีฟนะ กล่าวคือเมื่อ co-develop ร่วมกันแล้ว หากสองฝ่ายไม่เอาความคิดมาปะทะกัน มันก็ไม่เกิดประโยชน์ พอคิดงี้แล้ว FF Origin มันก็เป็นเกมที่ไม่สามารถสร้างขึ้นด้วยฝีมือของ Square Enix ฝั่งเดียวได้

- เรื่องที่ทีมงานคนอื่น ๆ เคยพูดกันว่าตอนเกมเปิดตัวช่วงมิถุนายน 2021 แล้วแฟน ๆ ลือกันสนั่นโลกว่า นี่คือเรื่องราวของแจ็คที่จะกลายเป็นการ์แลนด์? ทำให้ทีมงานเปลี่ยนนโยบายเป็น ไม่ต้องปิดบังเรื่องแจ็ค=การ์แลนด์ละ งั้นก็โปรโมตเรื่องนี้ไปเลยละกัน?? โนะบอกว่างานที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยเป็นงี้มาก่อน ทั้งซีนที่เลือกเอาไปทำเทรลเลอร์เอย นโยบายการโปรโมตเอย มันเปลี่ยนไปอย่างมาก อีกทั้งก่อนหน้านี้ก็เคยมีการเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาครั้งใหญ่ของเกมนี้มาแล้ว ไอ้เรื่องการโปรโมตนี่ก็เลยเหมือนกัน

- แฟมิซือถามว่า ไอ้การเปลี่ยนแปลงแนวทางครั้งใหญ่ที่ว่าคืออะไร? โนะตอบว่าตอนแรก เกมนี้จะเป็นไตเติลใหม่ที่ชื่อ “Stranger of Paraside” เฉย ๆ และตั้งใจจะให้คนเล่น เล่นแล้วเซอร์ไพรส์เข้าไปเรื่อย ๆ ว่า “เฮ่ย หรือว่านี่คือเรื่องราวของ FFI วะ?” ทว่าในขั้นตอนการสร้าง Logo เกมก่อนที่จะเปิดตัว คุณฮิโตชิ ฟุจิวาระ ผู้อำนวยการสร้าง แกอยากให้ใส่คำว่า “Final Fantasy” เข้าไปในชื่อเกมด้วย ด้วยเหตุนี้ ชื่อเกมมันเลยยาวขึ้น โนะรับว่าตอนนั้นโนะก็มึนว่าเอาไงดี แต่ถ้าคนไม่รู้ว่าเกมมันเกี่ยวกับอะไร มันก็ไม่มีประโยชน์ใช่มั้ยล่ะ เพราะงั้นโนะเลยตกลง ให้ใส่คำว่า FF ลงไปในชื่อเกมด้วย

- โนะบอกว่าเรื่องดันเจี้ยนแต่ละแห่ง เอา motif มาจากด่านใน FF ภาคหลัก แกพึ่งมาประชาสัมพันธ์เอาตอนเกมกำลังจะออก เพราะตอนแรกก็ไม่ได้มีแผนที่จะประกาศ กะจะให้คนเล่นไป “หรือว่า….???” ตอนเล่นเอาเอง

- แฟมิซือถามว่า ไอเดียที่สร้างดันเจียนโดยเอา motif มาจาก FF ภาคหลัก เป็นไอเดียของโนะเปล่า? โนะบอกว่าใช่แล้ว หลังจากทำ Dissidia FF บน PSP เสร็จ โนะก็คิดว่าถัดจากเกมที่ให้ All-Star Character จาก FF ปรากฏตัวแล้ว ก็ให้เป็นเกมตะลุยดันเจี้ยนโดยใช้สถานที่ Landmark All-Star จาก FF ภาคต่าง ๆ ไม่ดีเหรอ? ตอนนั้นก็คิดโปรเจคท์ขึ่นมาเลย แต่ช่วงนั้นยังทำไม่ได้ ก็เลยต้องพักไอเดียไปพักใหญ่

- โนะเสริมว่า ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยคิดโปรเจคท์ “เรื่องราวของชายผู้เกรี้ยวกราด” เอาไว้มายาวนานแล้ว ก็เลยพยายามเขียนแผนงาน โดยเอาเรื่องราวนั้น ขยำเข้ากับ Landmark All-Star เลยเกิดมาเป็นเกมนี้

- แฟมิซือถามว่าตอนนั้น ก็กะให้เกมยากเลยมั้ย? โนะบอกว่าตอนนั้นเปล่า แต่คุณฟุจิวาระ กับคุณไดสึเกะ อิโนะอุเอะ (ผกก.) อยากจะร่วมงานชิ้นใหม่กับ Team Ninja ซึงทางนั้นเขาถนัดเรื่อง Action มันเลยกลายมาเป็นเกม Action ความยากสูง

- เกมนี้มีเพลงเยอะมาก ออกมาเป็นซาวด์แทร็ก 4 CD ทางแฟมิซือก็ถามว่ามีเพลงที่โนะเป็นคนออเดอร์รายละเอียดเองมั้ย? โนะบอกจำได้ว่าเพลงแรก “Jack’s Theme” เขาจัดออเดอร์ไปชุดใหญ่เลย

- คุณนาโอชิ มิซึตะ (ผู้ประพันธ์หลัก) บอกว่า Prelude นั้นเป็นเพลงที่ Arrange ใหม่ใน FF ทึกภาคอยู่แล้ว ในภาคนี้ ก็พยายาม Arrange ไม่ให้เหมือนภาคอื่น และมีคอนเซปต์ว่า จะต้องไม่ฟังดูแล้วเหมือนเป็นเพลง Arrange แต่ให้เพลงมันดูเป็นออริจินอลของมันเอง แต่ให้ซ่อน motif ของเพลงต้นฉบับบแบบบาง ๆ ไว้ (https://www.youtube.com/watch?v=USFTvYZJGj8&t=141s)

- โนะบอกว่าเขาอยากให้เกมมีรสชาติ Dark taste ตั้งแต่แรก และนำเสนอความ “อาฆาตพยาบาทของมนุษย์” ซึ่งตอนแรกมันก็เป็นไปไม่ได้ แต่ในตอนท้ายของเรื่อง ก็เหมือนค่อย ๆ ดึงออกมาได้บ้างละ

------------------------------------------
ตัวละคร
------------------------------------------

- โนะบอกว่าตัวละครแทนตัวผู้เล่นนั้นคือ Stranger ดังนั้น การให้ใส่เสื้อผ้าที่เป็นของยุคปัจจุบัน มันก็เข้าใจง่าย และที่ทำให้เสื้อผ้าเรียบง่ายที่สุด ก็เพราะเกมนี้ต้องเปลี่ยนชุดสวมใส่บ่อย ๆ ถี่ ๆ อยู่แล้ว ส่วนในการตั้งชื่อตัวละครแทนตัวผู้เล่น โนะก็อยากให้มันเป็นชื่อสามัญโหล ๆ สำหรับเรียกคนนิรนาม แล้วก็ยกตัวอย่างว่าฝรั่งเวลาเรียกเด็กผู้ชายที่ไม่รู้จักชื่อ ก็มักจะเรียกว่า “ไอ้แจ็ค” (ถ้าเป็นคนไทยก็คงเรียก ไอ้แดง สมชาย สมศักดิ์) และถ้าตั้งชื่อให้มัน Unique เดี๋ยวภาพจำมันจะแรง ซึ่งโนะอยากให้คอนเซปต์ของชื่อคือ เป็นชื่อเรียกคนนิรนาม ที่ไม่มีความ individual มากกว่า

- โนะบอกว่าคอนเซปต์แจ็คคือ ชายผู้เกรี้ยวกราด ดูจากสีหน้าได้ แต่แจ็คไม่อยากทำตัวเด่น เลยไว้ทรงผมสั้นเตียนเรียบง่าย เขาขอให้คุณเคนจิโร่ สึดะ พากย์เสียงให้ เพราะเคนจิโร่อยากใช้เสียงดุดันอันแสนเย้าวยาน และเขาอยากพากย์เป็นตัวละครหลักใน FF

- โนะบอกเขาให้เจด มีอิมเมจแบบ Mood Maker

- โนะบอกว่าเขากับอิโนะอุเอะ คิดรายละเอียดเนื้อเรื่องไปจนถึงตอนปราบเคออสตนแรก แล้วเนออนโผล่ออกมา หลังจากนั้น เขาให้อิโนะอุเอะ กับคุณโทโมโคะ คานามาคิ (คนเขียนนิยายซีรีส์ Kingdom Hearts) ช่วยไปเติมรายละเอียดของพล็อค แล้วก็ตัดสินใจให้คาสึชิเงะ โนจิมะ มาร่วมงานด้วย ซึ่งตัวละคร โซเฟีย ก็เกิดมาจากคานามาคิ

- โซเฟียเป็นผู้หญิงวัย 30~40 เป็นคนที่เศร้า และมีความเป็นแม่สูง คอยโอบอุ้มทั้งปาร์ตี้เอาไว้

- เกราะการ์แลนด์มี 2 เวอร์ชั่น แต่ทั้ง 2 เวอร์ชั่นก็เอาต้นแบบมาจาก Dissidia NT

- คนพากย์เกราะการ์แลนด์คือ โคจิ อิชิอิ เหมือนใน Dissidia NT ให้ถือว่าเป็นเจ้าของเสียงในชุดเกราะนั้น

- เซร่าห์ภาคนี้ ออกแบบโดย Roberto Ferrari แม้จะวาดขึ้นจาก Classic Design แต่ก็ดูโดดเด่น คอนทรัสต์กับแจ็คทีเดียว แล้วโนะต้องการเสียงแบบเจ้าหญิงผู้สง่างามและมีความเป็นเด็กอยู่ด้วย ก็มีแคนดิเดตที่เคยพากย์เสียงเจ้าหญิงหลายคน สุดท้ายก็เลือกยูเมะ มิยาโมโตะ ที่พากย์เสียงอวา ใน Kingdom Hearts X Back Cover


- สำหรับการออกแบบชาวลูเฟนนี่ตอนแรกคิดหนัก ลังเลว่าจะให้เป็นเหมือนนักปราชญ์ใส่เสื้อคลุมในแบบที่กลมกลืนไปกับโลก? หรือจะให้ใส่เสื้อโค๊ทสไตล์โมเดิร์นแบบพวกแจ็ค? แต่ท้ายที่สุด โนะก็ตัดสินใจว่า เอาเป็นชุดจากอารยธรรมชั้นสูงที่แตกต่างออกไปสุดขั้วเลยละกัน ตัวโนะเองก็อยากให้เนื้อเรื่องหลักถ่ายทอดให้เห็นชัดไปเลยว่าชาวลูเฟนรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง แล้วก็ให้คุณเฟอร์รารี ไปรับผิดชอบสร้างต้นแบบ ภพของเทพเจ้าเหล่านี้ขึ้นมา ส่วนเสียงพากย์ โนะก็รีเควสต์ให้เป็นเสียงปริศนาที่เดาเพศไม่ออก

- ตอนที่อิโนะอุเอะกำลังคิดว่า แนวทางของดีไซน์มอนสเตอร์ในเกมนี้ควรเป็นยังไงนะ โนะก็วาดก็อบลินขึ้นมาเป็นตัวอย่างให้ แล้วก็ใช้ดีไซน์ก็อบลินนั้นเป็นตัวกำหนดแนวทาง ขณะที่พวกเคออสต่าง ๆ ในเกมออกแบบโดยทาคายูคิ ทาเคยะ คนออกแบบก็อดซิลาใน Shin Godzilla แล้วก็เป็นคนออกแบบมอเตอร์ไซค์ Fenrir ของคลาวด์, บาฮามุทชิน (AC) แล้วก็ยังมีงานอื่นอีกหลายอย่าง เช่นออกแบบโอดิน ลิเวียธาน ใน Dissidia Arcade


------------------------------------------
โนะเป็นคนเลือกเพลง My Way และมีภาพในหัวของฉากจบเกมตั้งแต่แรก
------------------------------------------

- โนะเป็นคนประสงค์ให้ใช้ My Way เป็นเพลงธีมของเกม โนะเสียดายที่ไม่สามารถใช้เวอร์ชั่นเนื้อเพลงญี่ปุ่นได้ แต่เนื้อเพลง Eng ก็มีเนื้อหาที่ลงตัวเพอเฟคท์กับเนื้อเรื่องเกมพอดิบพอดี

- โนะบอกว่าตอนแรกสุดเลยนะ เขามีภาพในหัวตอนที่ประตู (ห้องสุดท้ายในวิหารเคออส) ถูกเปิดออก แล้วเพลง My Way ก็บรรเลงขึ้นมา และไม่ใช่เรื่องเกินเลยไป หากจะบอกว่าเขาสร้าง FF Origin ขึ้นมาเพราะอยากจะสร้างซีนที่ประตูบานนั้นถูกเปิดออก ซึ่งมันก็ match กับอินโทรของเพลง My Way พอดิบพอดี!! (And now, the end is near, And so I face the final curtain. My friend, I'll say it clear. I'll state my case, of which I'm certain. I've lived a life that's full.

- โนะบอกว่าที่จริง My Way ก็มีคนใหม่ ๆ ร้อง cover กันไปมากมาย แต่ถ้าเอา My Way ฉบับออริจินอลมาใช้ไม่ได้ เขาก็อาจจะไม่ใช้เพลงนี้ ที่ต้องใช้เวอร์ชั่นต้นฉบับของ Frank Sinatra เท่านั้น ก็เพราะมันเป็นเวอร์ชั่นที่ติดหูเขาที่สุด หนึ่งเดียวเท่านั้น

- แฟมิซือถามการเจรจาขอ License ราบรื่นดีมั้ย? โนะบอกว่าใช้เวลานาน อันที่จริงแต่ก่อน เคยมีเกมอื่นที่เขาเจรจาขอ License เพลง masterpiece เก่าแก่มาแล้ว แต่ตอนนั้นเขาต้องยอมแพ้ไป คราวนี้ ก็เลยเดินเรื่องของ License ตั้งแต่เนิ่น ๆ เลย แต่มันก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน จนบางช่วงเขาก็แอบคิดว่าหรือต้องคิดตัวเลือกอื่นเผื่อแล้วนะ

------------------------------------------
คุยกันแบบคนเล่นจบแล้ว
------------------------------------------

- โนะบอกว่า FF Origin เป็นเกมที่อยากให้เข้าถึงคนหลายกลุ่ม พวกแฟน FF รุ่นเก่า ก็สามารถเล่นได้ไม่มีปัญหาด้วยความยากระดับ “STORY” (Easy นั่นแหละ) แล้วด้วยธรรมชาติของเกม เราเลยไม่ได้ร่างเนื้อเรื่องให้มันละเอียดลออเหมือนกับ FF ภาคปกติ แต่เราก็มั่นใจว่าคุณจะต้องพอใจแน่เมื่อได้เล่นจนจบ ส่วนคนที่ไม่รู้จัก FF มาก่อน ระบบเกมก็ทำให้คุณติดใจได้ ถ้าชอบความทรมานก็เล่น HARD ตั้งแต่เริ่ม แล้วด้วยองค์ประกอบแบบ Hack & Slash และการเปลี่ยนจ็อบ ก็ทำให้เล่นได้สนุก ถ้าข้องใจ ก็ไปลองเดโมก่อนได้

- แฟมิซือถามว่า FF Origin มันเป็นเรื่องราวก่อน FFI รึเปล่า? บางส่วนอย่างความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับแอสโตสและชาวลูเฟน ก็ทำให้รู้สึกว่ามันไม่ใช่แบบนั้น หรือเราต้องตีความว่าสิ่งเหล่านี้มันมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตามกาลเวลา? หรือว่ามันเป็นจักรวาลอื่น? สถานะของเนื้อเรื่องนี้มันคืออะไรกันแน่?

- โนะตอบ “แล้วแต่ผู้เล่นจะเลือกเลย จะคิดว่ามันเกี่ยวข้องกับ FFI ก็ได้ หรือจะคิดว่ามันเป็นเรื่องราวของ จักรวาลอื่นก็ได้” (どう捉えるかはプレイヤーに委ねるところです。『FFI』に繋がっていると考えていただいてもいいですし、別の世界線の話だと思ってもらっても構いません。)

- โนะบอกว่าในตอนจบของ FFI เราก็จะเห็นว่า “นักรบแห่งแสง” นั้น แท้จริงแล้วก็คือตัวผู้เล่นเกมเอง ดังนั้น สำหรับ FF Origin เองก็เหมือนกัน ก็พยายามตามรอย element ของ FFI เท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่แจ็คและผองเพื่อน แต่งตัวแบบคนยุคปัจจุบัน

***ผมหมายเหตุนิดนึงว่าใน Lufenian Report 1 มันก็บอกว่าชาวลูเฟนเก็บ Stranger มาจากโลกอื่น ซึ่งพี่อัล ก็ตีความแต่แรกว่ามันน่าจะสื่อว่าชาวลูเฟนมาเก็บตัวเรา จากโลกจริงของเราไปเนี่ยแหละ และนั่นก็เป็นการตีความที่ถูกต้องตามที่โนะต้องการแล้ว


- ส่วน DLC 3 ตอน จะทยอยออกมา โนะบอกให้รอดูมิชชั่นอย่างการต่อสู้กับนักรบแห่งแสงหลังฉากจบที่ประตูถูกเปิดออกมาได้เลย และก็จะมีการเพิ่มอาวุธใหม่ ๆ ลงไป

- แฟมิซือถามว่าแล้วใน DLC สุดท้าย “Different Future” จะมีฉากจบใหม่รึเปล่า? โนะบอกว่าคิดว่าไงล่ะ? ที่จริงชื่อ DLC นั้นมันก็มีตัวอักษร “DFF” และ “NT” อยู่ด้วย ดังนั้น บอสของมิชชั่นนั้นน ก็คงจะเดากันไม่ได้ใช่มั้ยล่าาา (หัวเราะ)

***แปลว่าบอสมันก็น่าจะเป็นชินริว ผู้ต้องสงสัยว่าเป็น Collaborator หรือผู้ร่วมอุดมกาวของชาวลูเฟน นั่นแหละครับ

- แฟมิซือถามว่าตอน FFI ออก โนะน่าจะเป็นนักเรียนมัธยมอยู่ พอจะจำอะไรเกี่ยวกับตอนนั้นได้บ้าง?

- โนะตอบ ผมจำได้ดีเพราะ FFI วางจำหน่ายตอนที่ผมทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านขายของเล่น ที่มีขายซอฟต์แวร์เกมด้วย ตอนที่เกมวางขาย ผมไม่ได้เล่น แต่ผมได้ยินเรื่องราวมากมายของ FFI จาก เด็ก ม.ต้น ที่เดินเข้ามาในร้านคุยกันแทบทุกวัน แล้วตอนนั้นก็คิดว่าว่า “ช่างน่าสนใจ”

- แฟมิซือพูดปิดท้ายว่าโนะเป็นคนที่มอบแสงสว่างให้กับ FFI อีกครั้ง แล้วปีนี้มีแผนอะไรต่อจาก FF Origin บ้าง? นี่ก็จะถึงอีเวนต์ครบรอบ 20 ปี Kingdom Hearts แล้ว นี่ก็จะเป็นปีแห่งการเตรียมความพร้อมใช่มั้ย?

- โนะตอบปิดท้ายว่าไม่ใช่ มันก็มีทั้งสองอย่าง คือทั้งการเตรียมความพร้อมสำหรับผลงานใหม่ และเตรียมพร้อมที่จะวางจำหน่าย ปีนี้จะเป็นปีที่ยุ่งมาก และสถานการณ์นี้จะยาว ๆ ต่อไป เลยปีหน้าไปอีก

ไม่มีความคิดเห็น